หลังจากที่ Sony และ Google เคยเจ็บตัวไปแล้วกับ Google TV ไปเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว ปีนี้ทั้งสองได้กลับมาจับมือกัน เพื่อรุกเข้าพื้นที่ห้องนั่งเล่นกันอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Bravia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการสำหรับทีวีตัวล่าสุดอย่าง Android TV

วันนี้ RE.V-> จึงขอนำ Bravia 4K TV ตระกูล X8500C ขนาด 55 นิ้ว มารีวิวให้อ่านกัน เรามาดูกันดีกว่าว่า การจับมือกันรอบนี้จะพากันรุ่งหรือจะพากันร่วงครับ

Package

กล่องของ Brava X8500C ยังคงเป็นกระดาษลังน้ำตาลเหมือน Bravia รุ่นก่อนหน้าเช่นเคย  แต่การสกรีนบนกล่องดูเรียบไม่หวือหวา และตัวกล่องยังมีความบางมากกว่ากล่องของ Bravia EX750 ขนาด 40 นิ้ว ที่เคยรีวิวไปเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน

ถึงแม้ว่าตัวกล่องจะมีขนาดบาง แต่ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ จึงไม่สามารถยัดใส่รถเก๋งมาได้ แนะนำให้ที่ร้านนำมาส่งและประกอบให้จะดีกว่า

Product – Hardware

งานออกแบบของ Bravia รุ่นปี 2015 ยังคงใช้ภาษาการออกแบบ Pure Geometry เหมือนกับ Bravia รุ่นที่วางขายในปีที่แล้ว แต่ปรับลดความหนาลง ซึ่งตัวโทรทัศน์จะถูกออกแบบให้อยู่ในรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่าย เพื่อให้เข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์ในห้อง ซึ่งมีรูปทรงแบบเรขาคณิตเช่นกัน

หน้าจอของ X8500C จะเป็นแบบ TRILUMINOS Display ที่ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot เพื่อให้หน้าจอสามารถแสดงจำนวนสีได้มากขึ้น ขนาด 55 นิ้ว ความละเอียด 3,840 x 2,160 พิกเซล

ส่วนกรอบหน้าจอนั้น ทำจากอลูมิเนียม และออกแบบให้ออกมาบางตามสมัยนิยม ด้านข้างใช้อลูมิเนียมขัดผิวด้วยแปรง เพื่อเน้นบริเวณด้านข้างของโทรทัศน์

ที่กรอบจอด้านล่าง จะเป็นที่อยู่ของแถบไฟสถานะ LED ตัวรับสัญญาณอินฟราเรดจากรีโมท เซนเซอร์วัดแสง และตัวปล่อยสัญญาณเชื่อมต่อกับแว่น 3D

ส่วนขาตั้ง เปลี่ยนรูปแบบจากขาตั้งแยกชิ้นกันใน X8500B รุ่นปีที่แล้ว มาเป็นขาตั้งชิ้นเดียวเหมือนกับซีรีย์ W ตัวขาตั้งทำจากโลหะ มีผิวมันเงา ไม่สามารถปรับองศาหน้าจอเอนหน้า – หลังหรือหมุนซ้าย – ขวาได้

ช่องเชื่อมต่อและปุ่มควบคุมต่าง ๆ จะอยู่ด้านหลัง บริเวณซ้ายมือ เมื่อมองโทรทัศน์จากด้านหน้า ช่องเชื่อมต่อที่ให้มามีดังนี้

เสียบสายจากด้านหลัง

• LAN ความเร็วสูงสุด 100 Mbps
• HDMI 3 audio In แบบ 3.5 มม.
• Digital audio out แบบ optical
• Component video (สามารถปรับไปใช้เป็น Composite video ได้)

เสียบสายจากด้านล่าง

• Composite video แบบ 3.5 มม. (โทรทัศน์ไม่ได้ให้สายแปลงมา ต้องไปหาซื้อกันเอง)
• ช่องต่อเสาอากาศ
• USB 3.0 จ่ายไฟ 5 V 0.9 A
• HDMI เบอร์ 4 (รองรับ ARC)
• HDMI เบอร์ 3 (สำหรับต่อกับสาย HDMI – DVI)

เสียบสายจากด้านซ้ายของโทรทัศน์

• USB 2.0 จ่ายไฟ 5 V 0.5 A จำนวน 2 พอร์ต
• Audio out แบบ 3.5 มม. (สามารถเลือกให้เป็น Line out หรือช่องต่อหูฟังได้)
• HDMI เบอร์ 1
• HDMI เบอร์ 2 (รองรับ MHL จ่ายไฟ 5V 1.5 A)

ส่วนปุ่มควบคุมบนตัวโทรทัศน์นั้น มีปุ่มเปิด – ปิด ปุ่มเปลี่ยนช่อง ปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเปลี่ยนช่องสัญญาณขาเข้า และปุ่ม TV ที่ทำให้เราสามารถเปลี่ยนไปดูช่องสัญญาณทีวีได้ทันที ไม่ว่าขณะนั้นทีวีจะทำอะไรอยู่ก็ตาม

Bravia X8500C จะมีรีโมทให้มาทั้งหมด 2 อัน อันแรกเป็นรีโมทแบบปกติ ที่ส่งสัญญาณแบบอินฟราเรด มีปุ่มตัวเลขสำหรับเลือกช่องทีวี ปุ่มทิศทางและเมนู ปุ่มปรับระดับเสียงและเปลี่ยนช่อง และปุ่มควบคุมการเล่น

รีโมทตัวที่สองคือ Touchpad Remote ที่เชื่อมต่อกับทีวีผ่าน Bluetooth ประกอบไปด้วย ปุ่ม Voice Search พร้อมไฟสถานะ และไมโครโฟนบริเวณหัว ปุ่ม Power ทัชแพดซึ่งสามารถกดลงไปทั้งอันได้ ปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเปลี่ยนช่อง และเสาอากาศ NFC

เมื่อถอดฝาหลังที่ทำพื้นผิวเลียนแบบลายหนังออก จะเจอที่ใส่ถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน และไฟสถานะการ initialize รีโมท (ที่เป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ)

ผังการทำงานของ 4K Processor X1

ส่วนสเปกของ Bravia X8500C นั้น จากข้อมูลของ Sony จะระบุเพียงว่าใช้หน่วยประมวลผล 4K Processor X1 ในการประมวลผลภาพ แต่จากการดูสเปกผ่านแอพดูสเปกอย่าง AIDA64 ทำให้รู้สเปกเพิ่มเติมดังนี้ครับ

• SoC รุ่น MT5890 ประกอบไปด้วยหน่วยประมวลผลกลาง ARM Cortex-A17 จำนวน 2 คอร์ และหน่วยประมวลผลกราฟิก ARM Mali-T624
• RAM ขนาด 2 GB เหลือใช้งาน 1.5 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB
• Wireless LAN มาตรฐาน a/b/g/n/ac ความเร็วสูงสุด 866 Mbps ที่มาตรฐาน ac

ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างที่ผมได้มาจาก AIDA64 คือ ระบบปฏิบัติการจะเรนเดอร์หน้าจอที่ความละเอียด Full HD และจะปรับไปใช้ความละเอียด 4K แท้ ๆ เมื่อมีการแสดงผลวิดีโอหรือรูปภาพ คล้ายกับการทำงานของโทรศัพท์ Xperia Z5 Premium จากค่ายเดียวกัน

ต่อไป เราจะไปดูในส่วนของซอฟต์แวร์กันครับ