ในปัจจุบันนี้ เราสามารถพูดได้ว่าจอภาพแสดงผลแบบ 3 มิตินั้น ได้ตายไปจากตลาดผู้บริโภคทั่วไปโดยสิ้นเชิงแล้ว แต่กับตลาดผู้ใช้มืออาชีพนั้น การแสดงผลแบบ 3 มิตินั้นยังมีการใช้งานอยู่กับงานที่เฉพาะเจาะจง ซึ่ง Sony เองก็ยังไม่ได้ทิ้งตลาดนี้ และพัฒนาเทคโนโลยี Spatial Reality Display (SR Display) ซึ่งสามารถแสดงผลภาพ 3 มิติที่ลอยขึ้นมาและสามารถรับได้ด้วยตาเปล่า คล้ายกับภาพ Hologram ที่เราเห็นในภาพยนตร์ Sci-Fi
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้มีโอกาสลองชมภาพจากจอรุ่น ELF-SR2 ซึ่งเป็นจอแสดงผล SR Display รุ่นที่ 2 ที่ Sony ได้เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาครับ
การทำงานของ SR Display รุ่น ELF-SR1
เบื้องหลังเทคโนโลยี SR Display นี้ ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 อย่างด้วยกันได้แก่
- ระบบตรวจจับตำแหน่งการมองของดวงตา ซึ่งสามารถจับตำแหน่งของดวงตาตามการเคลื่อนไหวของศีรษะได้ใน 6 แกน
- ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ 3 มิติ เพื่อเปลี่ยนภาพตามตำแหน่งการมองของดวงตา
- Micro-optical Lens ที่ปิดอยู่ด้านหน้าของพาเนล LCD เพื่อสร้างภาพสำหรับตาข้างซ้ายและขวา ทำให้เราสามารถมองเห็นภาพบนจอเป็น 3 มิติลอยขึ้นมาด้วยตาเปล่า
ภาพแสดงขอบเขตการแสดงผลภาพ 3 มิติของ SR Display (SR Display view space)
ด้วยส่วนประกอบเหล่านี้ ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นภาพ 3 มิติลอยขึ้นมาได้จากทิศทางต่าง ๆ เสมือนเราดูวัตถุ 3 มิติที่วางอยู่ภายในกล่อง ต่างจากเทคโนโลยี 3 มิติเดิมที่เราสามารถรับรู้ได้เพียงระยะตื้น – ลึกของภาพได้จากทิศทางตรงหน้าเท่านั้น
ELF-SR2 เป็นหน้าจอ SR Display ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียดการแสดงผล 3,840 x 2,160 พิกเซล ที่ความลึกของสี 10 bit (8 bit + FSR) และ Color Gamut ครอบคลุมสีตามมาตรฐาน Adobe RGB 100% มาพร้อมกับเทคโนโลยีประมวลผลภาพ High Picture Quality Engine และ Super Resolution Engine ที่นำมาจาก BRAVIA เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพและแสดงรายละเอียดเล็ก ๆ ภายในภาพได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องพึ่งพลังประมวลผลของ GPU
ตัวหน้าจอสามารถติดตั้งบนขาตั้งวางบนโต๊ะที่ให้มาด้วยกัน หรือขาตั้งจอ VESA mount ซึ่งทำมุมเอียงขึ้นมา 45 องศา เพื่อให้เกิดพื้นที่เสมือนในการแสดงผลภาพ 3 มิติลอยขึ้นมาให้เราชมได้ นอกจากนี้ตัวจอยังสามารถติดตั้ง Side Panel และ Bottom Stand เข้าไป เพื่อช่วยปิดกั้นสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทำให้ผู้ชมดำดิ่งไปกับประสบการณ์ภาพ 3 มิติที่ลอยขึ้นมาได้มากขึ้น
กล้อง High-speed Vision Sensor รุ่นที่ 2 ที่อยู่ตรงขอบจอด้านบน ได้ถูกปรับปรุงประสิทธิภาพในการจดจำและติดตามใบหน้า ทำให้สามารถตรวจจับตำแหน่งของดวงตาได้แม่นยำขึ้นในที่แสงน้อย และลดโหลดของ CPU ลง เมื่อเทียบกับเซนเซอร์รุ่นแรก
ในการใช้งานจริง เราสามารถเปิดโปรแกรม Settings ของ SR Display บนคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบการทำงานของเซนเซอร์ได้ ซึ่งโปรแกรมจะแสดงผลภาพที่กล้องเห็นเป็นสีขาวดำ และตีกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงล้อมรอบใบหน้าผู้ชมที่เซนเซอร์กำลังตรวจจับดวงตาอยู่
ผมได้มีโอกาสชมภาพเคลื่อนไหวจากโปรแกรม Unity-chan Candy Rock Star Live stage ซึ่งจอ ELF-SR2 ก็สามารถแสดงผลภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้อย่างลื่นไหล และเมื่อผมเอียงดูภาพในแนวอื่น โปรแกรมก็ตอบสนองโดยการเปลี่ยนมุมมองของภาพตามได้อย่างรวดเร็วมากจนแทบเรียกได้ว่าตามเวลาจริง
การจัดการ Crosstalk หรืออาการภาพของตาซ้ายและตาขวาไม่มารวมกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาของเทคโนโลยีแสดงผลภาพ 3 มิติก็สามารถทำได้ดี โดยเฉพาะเมื่อยืนชมภาพในตำแหน่งตรงกลางจอ แต่ก็ยังมีให้เห็นบ้างตามวัตถุที่อยู่ตรงบริเวณขอบจอ ส่วนเรื่องสีสันและความสว่าง ผมคิดว่าทำได้ใกล้เคียงกับจอเกรดระดับมืออาชีพที่ใช้ในทำงานกราฟฟิก ซึ่งผมเองก็ไม่แปลกใจเมื่อเห็นสเปก 100% Adobe RGB ของจอตอนที่ค้นข้อมูลมาเขียนบล็อก
อย่างไรก็ตาม จอ ELF-SR2 ยังมีข้อจำกัดในเรื่ององศาการมองภาพ 3 มิติที่ยังแคบอยู่เมื่อเทียบกับจอมอนิเตอร์ปกติสมัยนี้ (ตามสเปกคือประมาณ 50° ในแนวราบ 60° ในแนวดิ่ง) และโหมด 3 มิติที่รองรับผู้ชมได้เพียงคนเดียว เลยทำให้การแสดงผลภาพ 3 มิติของจอทำงานได้ไม่ถูกต้องเมื่อเซนเซอร์ตรวจพบผู้ชมหลายคน
นอกจากนี้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่ยังรองรับหน้าจอ SR Display ยังมีไม่เยอะมากและจำกัดอยู่ในกลุ่มซอฟต์แวร์เฉพาะทางเป็นส่วนมาก (อ้างอิงจาก App Select บนเว็บ Developer) ใครจะซื้อจอตัวนี้เพื่อมาใช้งานแบบทั่วไปอย่างดูวิดีโอ, เล่นเกม หรือนำไปต่อกับเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณภาพ 3 มิติ คงไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร
สำหรับคนที่สนใจ เจ้าหน้าที่ Sony Singapore บอกราคาของ ELF-SR2 ไว้ที่ประมาณ 5,000 เหรียญ (คิดว่าน่าจะเป็นหน่วย SGD มากกว่า USD) ใครที่เงินในกระเป๋าพร้อม และอยากลองเล่นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็สามารถติดต่อทาง SWS Group ที่เป็น Distributor ของ Sony Professional ในไทยกันได้ครับ