รีวิว Sony XBA-N3AP หูฟังไฮบริดแสนสบาย

Sony XBA-N3AP

สายหูฟังที่ให้มาจะเป็นสาย Y พร้อมไมค์และรีโมท ความยาว 1.2  เมตร มีลักษณะเป็นเส้นกลม ฉนวนค่อนข้างแข็งพอสมควรและมีการเซาะร่องเป็นแนวยาวไว้ เพื่อช่วยให้สายพันกันเป็นปมได้ยากขึ้น พร้อมหัวปลั๊ก 3.5 มม.ชุบทอง

ตัวนำภายในสายเป็นทองแดงปลอดออกไซด์ (OFC) เคลือบเงิน และเดินสายกราวด์แยกกันระหว่างสัญญาณเสียงฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เพื่อช่วยลดสัญญาณ cross talk ลง

Sony XBA-N3AP

ตัวรีโมทและไมค์ยังคงเป็นแบบเดียวกับในหูฟัง Sony รหัสต่อท้าย AP รุ่นอื่น ๆ คือ มีปุ่ม 1 ปุ่มสำหรับใช้งานโทรศัพท์ ควบคุมการเล่นเพลง สั่งการด้วยเสียง ฯลฯ ร่วมกับ iDevices หรืออุปกรณ์ Android ต่าง ๆ

Sony XBA-N3AP

นอกเหนือจากการลดขนาดหูฟังให้มีขนาดเล็กลงแล้ว ทาง Sony ยังได้ออกจุกหูฟัง Triple-Comfort Earbuds ที่ได้ปรับปรุงมาจากจุกแบบ Foam Silicone ที่ใช้งานใน XBA-H และ XBA-A ซึ่งตัวจุกรุ่นใหม่ดังกล่าวจะยังคงมีแกนที่เป็นซิลิโคนแข็งเช่นเคย แต่ปรับปรุงส่วนของหมวกด้วยการนำชั้นโฟมซิลิโคนมาอยู่บนซิลิโคนที่มีความนิ่ม ซึ่งแตกต่างจากจุก Foam Silicone ที่จะฉีดโฟมซิลิโคนไว้อยู่ด้านในหมวกซิลิโคนนิ่ม

ข้อดีของจุกแบบใหม่นี้ คือให้ความสบายในการสวมใส่มากขึ้น โดยยังคงน้ำเสียงที่มาจากหูฟังและการป้องกันเสียงจากภายนอกได้ดีเช่นเดิม นอกจากนี้ตัวจุกหูฟังยังสามารถนำมาล้างน้ำได้ แตกต่างจากจุกโฟมแบบอื่น ๆ ที่จะเริ่มเสื่อมสภาพเมื่อโดนน้ำ

สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคนั้น ทาง Sony นั้นตั้งใจลดขนาดและจำนวนของตัวขับที่ใช้ในหูฟังตระกูล XBA-N ลง เพื่อทำให้ขนาดของหูฟังเล็กลง แต่จะต้องยังคงคุณภาพเสียงให้เทียบเท่ากับหูฟังตระกูล XBA-A ที่ใช้ตัวขับ 3 ตัว ซึ่งทาง Sony ก็ได้เลือกใช้ตัวขับแบบไดนามิคขนาด 9 มม. ร่วมกับตัวขับ HD Super Tweeter แบบ balanced armature

ซ้าย: ตัวขับของ XBA-N3 ขวา: ตัวขับของ XBA-N1

จากบทสัมภาษณ์ทีมพัฒนา ตัวขับไดนามิคนั้นได้มีการออกแบบวงจรแม่เหล็กและรูปทรงของไดอะแฟรมใหม่ ทำให้สามารถตอบสนองความถี่ย่านต่ำและมีความไวที่ดีกว่าตัวขับขนาด 16 มม. และ 12 มม. ที่ใช้ก่อนหน้าเสียอีก

ส่วนวัสดุที่ใช้ทำไดอะแฟรมนั้น XBA-N3 ใช้ Liquid Crystal Polymer ซึ่งเป็นวัสดุที่ Sony ใช้ทำไดอะแฟรมของหูฟังในรุ่นสูง ๆ ส่วน XBA-N1 นั้นจะใช้ฟิล์ม PET ปกติ

ตัวขับ HD Super Tweeter ที่ใช้ใน XBA-N เทียบกับตัวขับ BA รุ่นก่อนหน้า

ส่วนตัวขับ HD Super Tweeter แบบ balanced armature นั้น ยังคงมีโครงสร้างแบบ Linear Drive Balanced Armature เหมือนกับตัวขับที่ใช้ก่อนหน้า แต่ทีมพัฒนาได้หาวิธีลดขนาดของตัวขับลงถึง 30% โดยไม่ให้กระทบต่อความไวของตัวขับ และด้วยความซับซ้อนในการผลิตตัวขับดังกล่าว การผลิตตัวขับ BA ของ Sony จึงทำที่โรงงานในญี่ปุ่น

เพื่อชดเชยตัวขับ BA ย่านเสียงกลางที่ถูกนำออกไป  ใน XBA-N3 จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Sound Space Control ซึ่งเป็นการใส่ acoustic tube ลงไปในช่องว่างหลังตัวขับ ทำให้ตัวขับมีพื้นที่ในการขยับและเสียงมีพื้นที่ในการสะท้อน ซึ่งส่งผลให้ทีมพัฒนาสามารถจูนเสียงย่านกลาง สร้างสมดุลของเสียงในแต่ละย่าน และช่วยให้มิติเสียงฟังดูกว้างขึ้นด้วย

ด้วยเทคนิคและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ข้างต้น ทำให้หูฟัง XBA-N3 สามารถตอบสนองช่วงความถี่ 3 – 40,000 Hz มีความไว 107 dB/mW ที่ความต้านทาน 16 โอห์ม

Performance

Sony XBA-N3AP

ผมได้นำ XBA-N3AP ไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์และเครื่องเล่นที่ผมมีอยู่ร่วม ๆ เดือน รวมกับก่อนหน้าที่ตัวหูฟังเองถูกทาง Sony นำไปใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็คิดว่าเรื่องเสียงที่ได้คงเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว

จุดเด่นเรื่องการสวมใส่ที่เป็นจุดชูโรงของหูฟังตัวนี้ ผมคิดว่าทำออกมาได้ดีมาก คือยังทำให้ใส่ง่ายและสบายเหมือนหูฟังรุ่นก่อนหน้า แต่ด้วยความที่หูฟังตัวเล็กลง ตัวหูฟังเลยไม่ยื่นออกมาจากหูมากจนขัดขวางการเคลื่อนไหวของศีรษะ นอกจากนี้จุกหูฟัง Triple Comfort แบบใหม่นั้นยังแก้ปัญหาของจุก Foam Silicone ที่เวลาใช้งานจุกใหม่ ๆ ตัวโฟมข้างในจะยังแข็งและดันอยู่ในหูมาก จนทำให้เกิดการเสียดสีเวลาใส่หูฟัง ทำให้รู้สึกแสบหรือเจ็บรูหู โดยยังคงน้ำเสียงของหูฟังและการป้องกันเสียงภายนอกได้เหมือนเดิมด้วย

ส่วนน้ำเสียงของ N3 นั้น ผมคิดว่ายังคงแนวเสียงของตระกูล XBA ที่ใช้ตัวขับผสม 3 ตัวอยู่ คือเบสลูกโตและเสียงแหลมที่มีความคมและละเอียด ซึ่งเบสของ N3 นั้นให้ความรู้สึกที่ดังกังวาลกว่า ทั้ง ๆ ที่ใช้ตัวขับไดนามิคที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม ส่วนเสียงแหลมนั้นมีปริมาณไล่ ๆ กับ XBA-A3 แต่ก็มีความใสคล้าย ๆ กับ XBA-Z5 อยู่นิด ๆ ส่วนเสียงกลางนั้นฟังดูโปร่งสบาย ๆ ไม่หนาเท่า A3 และมีน้ำเสียงค่อนไปทางแหลมมากขึ้น ซึ่งเข้ากันได้กับเพลงป็อปญี่ปุ่นที่ผมฟังอยู่เป็นประจำเป็นอย่างดี

การแยกรายละเอียดเสียงต่าง ๆ ยังคงทำได้ดีเหมือนรุ่นพี่เช่นเคย ส่วนมิติเสียงนั้น ผมคิดว่า N3 ทำจุดนี้ออกมาได้ดีกว่ารุ่นพี่ คือมิติเสียงโดยรวมฟังดูกว้างขึ้น ไม่อึดอัด คล้าย ๆ กับ MDR-EX800ST และ MDR-EX1000 เลยทีเดียว

ผมไม่พบปัญหาอะไรจากการใช้งานหูฟังตัวนี้เป็นพิเศษ เพียงแต่รู้สึกว่าสายหูฟังนั้นเกิดเสียงเวลาไปกระทบหรือเสียดสีกับเสื้อผ้าได้ง่ายกว่าสายหูฟังรุ่นก่อนหน้า ทำให้รู้สึกรำคาญจนอยากจะไปเอาสายอัพเกรดของ Sony ที่เป็นฉนวนผ้ามาเปลี่ยนแทนเหลือเกิน

Conclusion

เป็นเวลา 3 ปีแล้ว ที่ทาง Sony ได้ออกหูฟังตัวขับแบบผสม ซึ่งหากไม่นับ XBA-Z5 ที่ผมยกให้เป็นหนึ่งในงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ในตัวเองจนหาคู่เทียบได้ยาก ก็จะมี XBA-N3AP นี่แหละที่เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ทุกอย่างของมันดูลงตัวที่สุดแล้วในบรรดาพี่น้องของมันที่ออกมาทั้งหมด ทั้งหน้าตา ขนาด การสวมใส่ และน้ำเสียงของมัน

ส่วนตัวผมคิดว่า XBA-N3 เป็นหนึ่งในหูฟังที่พิสูจน์ว่าขนาดหูฟังและจำนวนตัวขับไม่ได้นั้นไม่ได้บ่งบอกถึงน้ำเสียงและคุณภาพของหูฟังเสมอไป ใครที่กำลังมองหาหูฟังสอดหูในงบหมื่นต้น ๆ แล้วไม่ชอบขนาดหูฟังที่ใหญ่ XBA-N3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่ควรจะไปลองฟังกันดูครับ

Like

  • งานออกแบบ วัสดุดี
  • ขนาดเล็ก กะทัดรัด สวมใส่ง่าย
  • จุก Triple Comfort Earbuds ใส่สบาย ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี
  • หูฟังขับง่าย
  • เบสลูกใหญ่ เสียงกลางโปร่ง เสียงแหลมใส ฟังสบาย

Don’t like

  • ความหนาของเสียงกลางลดลงไป
  • เสียงรบกวนจากการเสียดสีของสายหูฟัง

ขอขอบคุณ Sony Thai ที่ให้ยืมสินค้าเพื่อการรีวิวด้วยครับ

More info

Sony

11 thoughts on “รีวิว Sony XBA-N3AP หูฟังไฮบริดแสนสบาย

  1. Astrid

    ผมซื้อมาใช้พักนึงเเล้วขายไปซื้อ A3 มาครับ (ก่อนหน้านี้เคยใช้ A3 เเต่ขายไปนานเเล้ว) ผมว่าเสียงสูงมันนวลไปหน่อย ไม่รู้ roll off ไหม เวลาเสียงร้องขึ้นย่านสูงเเล้วไม่ค่อยฟิน (ตอนเเรกคิดว่าอาจจะคิดไปเองเเต่มาฟัง A3 อีกทีเสียงสูงมันไปได้ไกลกว่าเยอะจริงๆ ถึงบ้างครั้งจะคมไปบ้างก็ตาม) เสียงกลางติดสมูธไปหน่อย ถ้าชอบฟังออดิโอไฟล์เเบบมีสีสันนับว่าไม่เลวเลย เเต่ผมฟังเพลงญี่ปุ่นเยอะเลยรู้สึกว่ามันจืดๆไปบ้าง

    อื่นๆ ใช้กับ A35 รู้สึกกลางถอยไปหน่อยเเต่กับ ZX2 ก็โอเคขึ้นครับ

    เคยมี Z5 ด้วย ผมว่าตัวนี้คล้าย Z5 มากกว่า A3 นะ ตรงที่เสียงจะเน้นไปทางลื่นไหลมากกว่าฟังสนุก เเหลมไม่ค่อยกรุ๊งกริ๊งมาก

    Reply
    1. AT1987 Post author

      ส่วนตัวผมยังประทับใจเสียงแหลมของ XBA-H3 อยู่ครับ ฟังสนุกสุดแล้ว แต่เสียดายดอก Super Tweeter เสียหมด เลยต้องไปหา A3 มาใช้แทนเหมือนกันครับ

      Reply
  2. BONGKOCH YONSIRITAM

    เท่าที่ลองเทียบกันมาเพราะผมใช้ A3 อยู่แล้ว N3 ด้อยกว่าทั้ง เบส กลาง แหลม ครับ ตอนแรกกะจะเปลี่ยนเป็น N3 แต่ลองแล้วไม่คุ้มกันเลยใช้A3 ต่อไปครับ เปลี่ยนสายอัพเกรดของSony เอง เสียงยิ่งนำN3ไปไกลครับ

    Reply
  3. meen meen

    ตัวนี้กับ Xba 300 เสียงกันยังไงบ้างครับ พอดีสนใจตัว xba300 แต่รีวิวไทยไม่มีใครรีวิวเลยครับ

    Reply
    1. AT1987 Post author

      ผมยังไม่มีโอกาสลอง XBA300 เหมือนกัน เพราะตัวนี้บ้านเราไม่ได้เอาเข้ามาขายครับ

      Reply
  4. meen meen

    รบกวนถามหน่อยครับ n3ap a2 a3 3ตัวนี้ถ้าเน้นฟัง vocal เป็นหลักเอาตัวไหนดีครับ

    Reply
    1. AT1987 Post author

      ส่วนตัวผมชอบ A3 สำหรับการฟังแบบโดยรวมครับ แต่ถ้าเพลงส่วนมากที่ฟังเป็นนักร้องหญิงที่เสียงแหลมหน่อย N3AP จะให้เสียงร้องที่หวานกว่าครับ

      Reply
  5. Pingback: ลองฟัง หูฟังตัดเสียงรบกวนตระกูล 1000X ของ Sony | RE.V –>

  6. Pingback: ลองฟัง IER-M9 และ IER-M7 หูฟัง In-Ear Monitor ใหม่จาก Sony | RE.V –>

  7. Pingback: ลองฟัง หูฟัง Truly Wireless รุ่น WF-1000X จาก Sony | RE.V –>

  8. Pingback: ลองฟังเพลงในระบบเสียง 360 Reality Audio และ Dolby Atmos ที่ TIDAL | RE.V –>

Leave a Reply