สำหรับคนที่เกิดในช่วงก่อนปีค.ศ. 2000 คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเครื่องเล่นเพลงพกพาที่เท่ที่สุดในยุคนั้นคือ WALKMAN จาก Sony ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบทั้งเครื่องเล่นเทป เครื่องเล่นซีดี หรือจะให้ไฮโซสุด ๆ ก็ต้องเป็นเครื่องเล่นแผ่น MD ที่ใครเห็นก็ต้องตื่นเต้นกับมัน (ซึ่งก็ได้ประกาศเลิกผลิตไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา)
แต่ในปัจจุบันที่เครื่องเล่นมีเดียพกพาที่ลงแอพและเกมได้ขึ้นมาครองเมือง เครื่องเล่นมีเดียที่ผ่านช่วงสูงสุดและต่ำสุดอย่าง WALKMAN จึงได้หันไปหาพันธมิตรหุ่นกระป๋องสีเขียวและไอศครีมแซนด์วิช เพื่อสร้างเครื่องเล่นมีเดียรุ่นใหม่ที่สมน้ำสมเนื้อมาต่อกรกับคู่แข่ง นั้นก็คือ WALKMAN F800 ที่เราจะมารีวิวในวันนี้นั่นเอง
สำหรับรุ่นที่เรานำมารีวิววันนี้คือ NWZ-F804/B ซึ่งเป็นรุ่นย่อยหน่วยความจำขนาด 8 GB สีดำ ที่ขายในกลุ่มประเทศโซนเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วยครับ
Package
ตัวกล่องที่ได้มาสวยงามมาก ออกแบบมาในลักษณะเหมือนกล่องขนมเลย
ด้านหลังมีบรรยายสรรพคุณสินค้า
เปิดกล่องออกมา จะเจอไอศครีมแซนด์วิชชิ้นเบ้อเริ้ม
พอเอาบิสกิตชั้นบนออกก็จะเจอ WALKMAN F800 นอนจมในไอศครีมอยู่
เอาไอศครีมออกบางส่วน ก็จะเจอหูฟัง สาย USB และจุกหูฟังขนาด S และ L อย่างละคู่
เป็นกล่องสินค้าที่ออกแบบมาได้สร้างสรรค์และน่ารักมาก แต่กล่องแบบนี้ทำให้เฉพาะเครื่องสำหรับสื่อเท่านั้นครับ กล่องจริงเป็นกล่องพลาสติกใสเล็ก ๆ เหมือนกล่อง XBA-1 ที่เคยรีวิวไป
Product – Hardware
การออกแบบของ F800 นั้นมาในแนวเรียบง่าย ไม่หวือหวา ตามแบบฉบับการออกแบบ WALKMAN รุ่นหลัง ๆ ของ Sony ขนาดและน้ำหนักของเครื่องทำออกมากำลังพอเหมาะ วัสดุหลักที่ใช้ทำตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม งานประกอบโดยรวมแข็งแรงและเนี๊ยบทีเดียว
ในส่วนงานออกแบบ เห็นหลาย ๆ คนเอาไปเปรียบเทียบมือถือ WALKMAN ของ SonyEricsson แต่ผมดู ๆ แล้วไม่ค่อยคล้ายเท่าไร แนวทางการออกแบบค่อนข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ด้านข้างของเครื่องมีปุ่มเพิ่ม – ลดเสียง และปุ่ม W.Button สำหรับเรียกแอพ W.control เพื่อขึ้นมาควบคุมการเล่นเพลง
ด้านบน มีปุ่มเปิด – ปิดเครื่องเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังเป็นตำแหน่งที่ไว้เสาอากาศ WLAN อีกด้วย (สังเกตว่าวัสดุด้านบนเป็นพลาสติก เพื่อให้คลื่นวิทยุผ่านได้)
ด้านล่าง มีรูสำหรับคล้องสาย ลำโพง WM-PORT และแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. เนื่องจาก F800 ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เลยทำปุ่ม Reset เอาไว้ สำหรับกดเวลาเครื่องค้าง
ในส่วนของแจ็คหูฟัง Sony ใช้แอมป์ดิจิตอลแบบ S-Master MX ซึ่งพัฒนาจากแอมป์ S-Master ตัวปกติ เพื่อนำไปใส่ในอุปกรณ์พกพา ความพิเศษของแอมป์ตัวนี้คือจะทำการขยายสัญญาณเสียงในรูปแบบดิจิตอลก่อนที่จะ แปลงเป็นอนาล็อกแล้วส่งออกไปยังหูฟัง ช่วยลดสัญญาณรบกวนและความเพี้ยนของเสียงที่อาจจะเกิดขึ้นในขั้นตอนขยายสัญญาณเสียง
หน้าจอ TFT ขนาด 3.5″ ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล รองรับมัลติทัชได้ 5 จุด คุณภาพ ความคม และสีสันจัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่จุดที่ทำได้ดีและต้องขอชมคือเรื่องมุมมองของหน้าจอที่กว้างมาก ไม่ว่าพลิกไปทางไหน ก็ไม่เจออาการว่าสีเพี้ยนเกิดขึ้น
ด้านล่างเป็นปุ่ม Back, Home และ Menu ของ Android แบบ Capacitive ใช้งานจริงค่อนข้างยากโดยเฉพาะในที่มืด เพราะตัวเครื่องไม่มีมอเตอร์สั่น กดปุ่มไป ไม่รู้ว่าที่กดไปโดนไม่โดน แถมตัวปุ่มเองยังไม่มีไฟส่องหลังให้อีก
สำหรับสเปกอื่น ๆ ของตัวเครื่องคร่าว ๆ มีดังนี้
- หน่วยประมวลผล Tegra 2 จาก NVIDIA แบบดูอัลคอร์ ความเร็ว 1 GHz
- RAM ขนาด 512 MB
- หน่วยความจำขนาด 8 GB แบ่งเป็นพื้นที่ภายในสำหรับลงแอพ 0.99 GB และพื้นที่ภายนอกไว้ใส่ไฟล์ 4.85 GB (รุ่น 16 GB จะมีพื้นที่ส่วนนี้ประมาณ 12 GB ครับ)
- Wireless LAN มาตรฐาน b/g/n ความเร็วสูงสุด 72 Mbps
- Bluetooth เวอร์ชั่น 2.1
- ไมโครโฟน
- Accelerometer, GPS
โดยรวมสเปกของ F800 จัดว่าค่อนข้างเก่าเมื่อเทียบกับเหล่าสมาร์ทโฟน Android แต่ก็ยังตอบโจทย์ในการใช้งานได้อยู่ ส่วนความแตกต่างของ F800 ที่ขายในบ้านเราที่เป็นรหัส NWZ กับของญี่ปุ่นที่เป็นรหัส NW นั้นคือ NW-F800 จะสามารถประมวลผล Digital Noise Canceling ได้ในตัวเครื่อง พร้อมกับได้หูฟัง MDR-NC033L2 ตัวเดียวกันกับที่แถมใน VAIO Duo 11 เพื่อนำไปใช้งานร่วมกัน
นอกจากนี้ยังมีสีและความจุหน่วยความจำของเครื่องให้เลือกเยอะกว่าคือ สีดำ สีขาว สีฟ้า สีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม และสีเงิน ซึ่งเป็นสีพิเศษขายที่ Sony Store เท่านั้น และตรงพลาสติกด้านล่างจอของสีนี้จะมีการสลักเป็นลวดลายอีกด้วย ส่วนหน่วยความจำมีขนาด 16 GB, 32 GB และ 64 GB ให้เลือก ในขณะที่เครื่องรหัส NWZ จะมีสีดำ และสีแดง ส่วนหน่วยความจำมีขนาด 8 GB, 16 GB และ 32 GB ให้เลือก (ประเทศไทยไม่นำตัวความจุ 32 GB มาขาย)
สำหรับหูฟังที่ให้มาด้วยจะเป็นรุ่นหูฟังแบบสอดหูรุ่น MDR-EX0300 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น OEM ของ MDR-EX300 หูฟังในตระกูล EX Monitor รุ่นก่อนตัว EX Monitor รุ่นปัจจุบัน ใช้ตัวขับแบบไดนามิกขนาด 13.5 มม. สาย OFC และหัวปลั๊กชุบทอง
ถึงแม้ว่าจะให้หูฟังรุ่นเก่ามา แต่คุณภาพของหูฟังตัวนี้ จัดว่าดีกว่าหูฟังแถมที่ให้ในเครื่องเล่นมีเดียตัวอื่นในท้องตลาดมาก นอกจากนี้หูฟังรุ่นนี้ยังถูกนำไปเพิ่มไมค์เพื่อนำไปแถมกับโทรศัพท์ Xperia Z ที่กำลังจะออกอีกด้วย
Pingback: รีวิว Sony WALKMAN F800 เครื่องเล่นมีเดียพลัง Android ภาคซอฟต์แวร์และการใช้งานจริง
Pingback: ลองจับ WALKMAN ZX1 และหูฟัง XBA-H3 ในงานเปิดตัวสินค้า Hi-Res Audio ของ Sony
ขอรบกวนทราบครับว่า ถ้าหากซื้อเครื่องญี่ปุ่น จะมีปัญหาเรื่องภาษามั้ยครับ (อ่าน/พิมพ์ อังกฤษ-ไทย)
WALKMAN Android รุ่นญี่ปุ่น จะมีอินเตอร์เฟสเฉพาะภาษาญี่ปุ่นกับอังกฤษให้
ส่วนการอ่านภาษาไทย เห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร ส่วนการเขียน สามารถลงคีย์บอร์ดไทยเพิ่มเติมได้ครับ
จริง ๆ ผมแนะนำซื้อเครื่องไทย เพราะราคาถูกกว่า ได้ประกันนานกว่าครับ
อ๋อครับ ขอบคุณมากนะครับ แต่อ่านไปอ่านมา อ่ะ ที่ผมกำลังดูไว้คือ F880 ที่เพิ่งออกมาพร้อม ZX1 นี่นา คืออยากได้รุ่น 64GB อ่ะครับ
Pingback: รีวิว Sony WMP-NWM10 หัวแปลง WM-PORT เป็น Micro USB
Pingback: มาทำความรู้จัก เทคโนโลยีวงจรขยายเสียงดิจิทัล S-Master ของ Sony กันเถอะ ตอนที่ 3 | RE.V –>
Pingback: รีวิว Sony MDR-EX800ST หูฟังมาตรฐานห้องอัด Sony Music Studios Tokyo | RE.V –>