หลังจากทีแล้ว เราได้ดูรายละเอียดในส่วนของฮาร์ดแวร์ตัวเครื่องไปแล้ว ต่อไปเราจะมาดูในส่วนของซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ทาง Sony ใส่มาให้ใน VAIO Duo 11 และประสบการณ์การใช้งานจริงกันครับ

หมายเหตุ เนื่องจากผมมีการอัพเดทไดร์เวอร์และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในเครื่องเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว บางฟังก์ชั่นอาจจะไม่มีในเครื่องที่ยังไม่ได้อัพเดทซอฟต์แวร์นะครับ

ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้ว สามารถอ่านได้ที่นี้ครับ

Product – Software

สำหรับในด้านซอฟต์แวร์แล้ว หลาย ๆ คนที่ใช้ VAIO กันมาอยู่แล้ว คงจะทราบกันดีว่า Sony มักจะทำโปรแกรมเพื่อรองรับการใช้งานด้านต่าง ๆ หรือไปเอาโปรแกรมจากบริษัทอื่นใส่เพิ่มมาในเครื่องด้วย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเครื่องได้ทันที โดยไม่ต้องไปหาโหลดโปรแกรมต่าง ๆ มาลงเพิ่มเติม

สำหรับ VAIO Duo 11 นั้นมาพร้อมกับ Windows 8 ซึ่งแบ่งลักษณะการใช้งานเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็น Modern UI ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการใช้งานแบบสัมผัส กับ Desktop ซึ่งก็คือโหมดการใช้งานใน Windows เดิม สำหรับแอพ Sony ในฝั่ง Metro นั้น จะต้องไปโหลดที่ Windows Store เอง โดยเมื่อเข้าไปแล้วจะมีหมวด VAIO Exclusive โผล่ขึ้นมาให้เราไปดาวน์โหลดได้ ส่วนโปรแกรมบนฝั่ง Desktop นั้น ทาง Sony จะติดตั้งมากับเครื่องให้แล้วเหมือนเดิม ผมขอแนะนำแอพทางฝั่ง Metro ก่อน

Album และ Music เป็นแอพสำหรับดูภาพและฟังเพลง โดยมี UI เหมือนกับแอพของทางฝั่งอุปกรณ์กลุ่ม Xperia แต่ความสามารถยังน้อยกว่ามาก (แอพเพิ่งเข้ามาใน Store เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว) โดยความสามารถต่าง ๆ นั้นแทบไม่แตกต่างกับแอพ Photo และ Music ของ Microsoft เองเลย ที่เพิ่มเติมมา มีเพียงความสามารถในการเข้าไปเปิดไฟล์บน DLNA Media Server ตัวอื่นได้ด้วย

บอกตามตรงผมผิดหวังกับแอพสองตัวนี้ครับ เพราะหวังว่ามันควรจะทำได้ดีเท่ากับใน Xperia S ที่ใช้อยู่ หรือเปิดไฟล์เพลงนามสกุลอื่น ๆ เช่น FLAC ได้ แต่เรื่อง codec นี้เข้าใจว่าอาจจะเพิ่มไม่ได้ เพราะทาง Microsoft ไม่ให้เพิ่ม codec สำหรับแอพฝั่ง Modern ครับ

Socialife เป็นแอพศูนย์รวมที่ทำให้เราสามารถอัพเดทสถานะจาก Social Network ต่าง ๆ และเป็นแอพสำหรับอ่านฟีดจากเว็บอีกด้วย แนวความคิดและ UI ของแอพนี้บอกตามตรงว่าดีมาก คือมีตัวนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปหาแอพตัวอื่น ๆ เพื่อมาเล่น Facebook หรือ Twitter อีกเลย โดยก่อนเริ่มการใช้งานนั้น แอพจะให้เรา sign in บัญชี Facebook ก่อน จากนั้นจึงจะให้เราเพิ่มบัญชี Twitter Youtube และ Google Reader ลงไป ซึ่งบัญชี Twitter สามารถลงได้หลายบัญชีได้ ส่วนการเพิ่มฟีดเว็บข่าว สามารถไปเพิ่มทีหลังในเมนู Settings ครับ

จากการใช้งานมาสักระยะ ตัวแอพยังมีปัญหาในเรื่องของการอัพเดทข้อมูล ที่ทำได้ช้าและบางครั้งก็ทำแอพค้างไปเลย การโพสยังจำกัดแค่การโพสตัวอักษรเท่านั้น ไม่สามารถโพสรูปได้ และตัว Twitter ยังส่ง direct message ไม่ได้

Note Anytime for VAIO เป็นแอพสำหรับจดโน๊ต คล้าย ๆ กับ OneNote แต่มีความสามารถมากกว่า OneNote เวอร์ชั่น Modern คือสามารถเปลี่ยนกระดาษ เปลี่ยนลักษณะของปากกาได้ สามารถนำเข้าไฟล์รูปหรือ PDF เข้ามาโน็ต แล้ว export ออกไปยังแอพตัวอื่น ๆ ได้ (แต่ยัง export ออกมาเป็นไฟล์ไม่ได้) นอกจากนี้ตัวแอพยังมีการเปิดบริการ Digital Cabinet สำหรับเก็บไฟล์โน็ตต่าง ๆ บนคลาวด์ขนาด 2 GB อีกด้วย

เนื่องจากแอพตัวนี้ ตอนนี้ทางผู้ผลิตทำ exclusive ให้กับทาง Sony อยู่ เลยทำให้แอพทำงานเข้าขากันกับปากกาสไตลัสของ Duo 11 ได้ดี สำหรับใครที่อยากใช้นิ้วเขียนบนจอสัมผัส ก็ให้เข้าไปกดเปิดการเขียนด้วยนิ้วในเมนู Settings ก่อน ถึงจะเขียนได้

ส่วนฝั่ง Desktop เริ่มต้นด้วยโปรแกรมจุดขายของ Duo 11 คือ Active Clip ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับจับภาพหน้าจอ คล้าย ๆ กับ Snipping Tools ที่ใส่มาใน Windows Vista เป็นต้นมา แต่ความพิเศษของมันคือ เราสามารถสั่งลบพื้นหลังของส่วนที่เราเลือกมาได้ และการเรียกใช้งานโปรแกรมนี้ก็แสนง่ายเพียงกดปุ่มเล็กบนปากกาค้างไว้เท่านั้นเอง

VAIO Gesture Control โปรแกรมนี้เป็นจุดขายของ VAIO รุ่นที่แล้ว มันคือโปรแกรมควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวของฝ่ามือ โดยสามารถควบคุมโปรแกรม Internet Explorer, Windows Media Player, Google Chrome และ PlayMemories Home เนื่องจากเมื่อสไลด์เครื่องแล้ว กล้องจะเอนพร้อมจอไปด้วย เลยต้องยกมือสูงหน่อยเพื่อให้กล้องเห็น การใช้งานจริงใช้เวลาซ้อมอยู่พอประมาณก็จะใช้งานได้ตามที่โฆษณาไว้

PlayMemories Home เป็นโปรแกรมสำหรับจัดการภาพถ่ายและวิดีโอ มีเครื่องมือในการตกแต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอแบบง่าย ๆ สามารถใช้เชื่อมต่อกับบริการฝากรูป PlayMemories ของ Sony ได้ แต่ถ้าต้องการแต่งภาพแบบเป็นจริงเป็นจัง ยังมี Adobe Photoshop Element 10 ตัวเต็มให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งสามารถใช้งานได้เหมือน Photoshop รุ่นใหญ่ แต่ตัดฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้ทั่วไปไม่ค่อยใช้งานออกไป (ราคาขายตัวนี้อยู่ที่ประมาณ 5,000 กว่าบาท)

VAIO Gate เป็นโปรแกรมรวมช็อตคัทต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกในการเรียกใช้งาน ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนตอนซื้อเครื่อง VAIO รุ่นเก่า ๆ มาก็คงพร้อมใจกันเอาออก แต่มาในเวอร์ชั่นนี้ ทาง Sony คงเล็งเห็นปัญหาการใช้ Windows 8 ที่ไม่มี Start menu ในหน้า Desktop แล้ว เลยทำการดัดแปลง VAIO Gate ให้มาทำหน้าที่แทน ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถแทนกันได้ 100% แต่ก็ดีกว่าที่ไม่มี แล้วเราต้องไปหาซื้อเอง

สำหรับโปรแกรมตัวอื่นก็เหมือนกับ VAIO รุ่นอื่น ๆ เช่น VAIO Message Center, VAIO Care ซึ่งทั้งสองตัวนี้มีให้ทั้งบน Desktop และ Modern UI แต่บน Modern UI ไม่มีความสามารถอะไรเลย นอกจากดูรหัสรุ่นสินค้ากับเปิดคู่มือ ถ้าจะใช้งานจริง ๆ คงต้องกดตัวบน Desktop ไปก่อน

Performance

ในส่วนของการใช้งานจริง ผมได้เอา VAIO Duo 11 มาใช้งานแทน ThinkPad R61 ของผม ซึ่งปกติแล้วผมใช้แล็ปท็อปพิมพ์งาน ทำตารางคำนวณ ทำสไลด์นำเสนอ ยกเครื่องไปนำเสนองาน เขียนบล็อก ทดสอบอุปกรณ์เครือข่าย ประมาณนี้ เพราะฉะนั้นการทดสอบใช้งานเจ้า Duo 11 ก็ต้องตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ของผมได้

เริ่มต้นที่ตัวเครื่องกันก่อน วัสดุที่ใช้ในการทำเครื่องนั้นดูดี มีระดับ จับแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ของถูก งานประกอบเนี๊ยบ แต่ที่อยากติคงจะเป็นกรอบหน้าจอด้านบนกับล่างที่เป็นกรอบพลาสติก ซึ่งเป็นรอยขนแมวได้ง่ายมาก และหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นได้ยาก เพราะเป็นส่วนที่เวลาจับถือมันต้องไปโดน

น้ำหนักตัว 1.3 กก.นั้น อาจจะดูเหมือนเบา แต่พอถือใช้งานแบบแท็บเล็ตแล้ว น้ำหนักจัดว่าเยอะ ทำให้ไม่สามารถถือมือเดียวอย่างมั่นคงได้เหมือนแท็บเล็ตตัวอื่น ๆ ส่วนขนาดนั้นไม่กะทัดรัดเหมือนแท็บเล็ตอื่น ๆ เพราะมีพื้นที่ด้านข้างจอเยอะมาก จนความกว้างของเครื่องนั้นกว้างพอ ๆ กับ HP Folio 13  อย่างไรก็ตามถ้ามองในมุมมองของ Ultrabook เจ้า Duo 11 จัดเป็น Ultrabook ที่บางและมีน้ำหนักเบา สามารถใส่มันลงกระเป๋าแบกได้โดยไม่ปวดหลังมากนัก

เรื่องของจอนั้น การแสดงผลทำออกมาได้ดีสมกับค่ายผู้ผลิตทีวีชั้นนำ ภาพคมชัด มุมมองกว้าง ด้วยพาเนล OptiContrast นั้นทำให้เวลามองจอแล้วรู้สึกว่ากระจกกับพาเนลจอมันเป็นชิ้นเดียวกัน ในส่วนเงาสะท้อนนั้น เกิดเงาสะท้อนน้อยกว่าจอเคลือบมันในแล็ปท็อปตัวอื่น ๆ บางครั้งถ้าเกิดเงาก็เพิ่มความสว่างขึ้น เงาก็จะหายไป แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีหลอดไฟมันส่องเข้าหน้าจอโดยตรง ก็เกิดแสงสะท้อนจนมองภาพลำบากเหมือนเดิม

สำหรับคนที่กังวลเรื่องของการใช้งานจอขนาดเล็กที่มีความละเอียดสูง ๆ ในเบื้องต้น Windows 8 นั้นจะมีการปรับขนาด Live Tiles และการแสดงผลของแอพต่าง ๆ บนฝั่ง Modern UI อยู่แล้ว แต่ฝั่ง Desktop นั้นโปรแกรมหลายตัวยังไม่รองรับการปรับขนาด ทำให้ UI ของโปรแกรมดูเล็กมาก ๆ ทำให้ใช้งานได้ลำบาก

 สำหรับความเร็วการใช้งานและตอบสนองของเครื่อง ต้องขอบคุณ SSD และ Windows 8 ด้วยที่ทำให้การเปิด – ปิด sleep – wake การหมุนหน้าจอตามแนวการถือเครื่องนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก เหมือนกับการใช้แท็บเล็ตใน OS ยอดนิยมอื่น ๆ สำหรับความเร็วในการใช้งานนั้น ในงานที่ผมทำอยู่ ถือว่าสเปกเครื่องที่ได้มานั้นเพียงพอต่อการใช้งาน รอบนี้ผมคงไม่ได้เป็นโปรแกรมรัน Benchmark ให้ดู แต่ขอเอาคะแนน Windows Experience Index แปะให้ดูอย่างเดียวแทน ซึ่งคะแนนต่าง ๆ ที่ได้ก็ออกมาตามคาด

จุดเด่นอีกจุดที่น่าพูดถึงคือตัว Rapid Wake ซึ่งเป็นการสั่งให้เครื่อง VAIO ทำการเก็บข้อมูลลง SSD ของเครื่องก่อนการ sleep ซึ่งช่วยตัดปัญหาที่จะต้องใช้ไฟเลี้ยงเครื่องขณะเครื่องกำลัง sleep อยู่ ฟังดูอาจจะคล้าย ๆ การสั่ง hibernate ของตัว Windows เอง แต่ความเร็วของ Rapid Wake นั้นเร็วพอ ๆ กับการสั่ง sleep – wake แบบปกติครับ

สำหรับการนำไปทำงานต่าง ๆ นั้น การใช้งานในโหมดแท็บเล็ตนั้นเป็นอะไรที่มันยอดมาก Duo 11 นั้นทำออกมาตอบโจทย์การใช้งาน Windows 8 ในส่วน Modern UI ได้ดี

แต่พอนำมาใช้ทำงานจริง ๆ จัง ๆ ในโหมดคีย์บอร์ดแล้ว ด้วยจอที่ล็อกองศาการเอียงที่ 60° คีย์บอร์ดที่เล็ก ต้องออกแรงค่อนข้างเยอะในการกดให้ติด ไม่มีพื้นที่รองมือ ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานเป็นระยะเวลานานมาก ๆ นัก และยิ่งคนที่ไม่คุ้นกับการใช้ optical trackpad จะยิ่งเสียเวลาในการยกมือจากการพิมพ์ เพื่อไปจิ้มจอแทน คนที่คิดว่าจะใช้งาน Duo 11 เป็นคอมพิวเตอร์หลัก ควรหาเมาส์บูลทูธสักตัวมาใช้งานด้วยกัน จะช่วยให้การทำงานโหมดคีย์บอร์ดนั้นสบายและรวดเร็วขึ้น

ส่วนการใช้งานปากกานั้น ทำออกมาได้ดี จับการเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและแม่นยำ เวลาใช้งานปากกาเขียนลงหน้าจอ Duo 11 จะไม่รับการป้อนค่าจากหน้าจอสัมผัสด้วย ทำให้เราสามารถเขียนหน้าจอในลักษณะที่คุ้นเคยได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากหน้าจอมันลื่นมาก อาจจะทำให้เวลาใช้ปากกาเขียนมันจะไม่มีแรงต้านเหมือนเขียนบนกระดาษ ซึ่งก็แก้ไขได้โดยการติดฟิล์มกันรอยแบบด้านที่เป็นอุปกรณ์เสริม โดยนอกจากจะเพิ่มความฝืดให้หน้าจอแล้ว ยังลดแสงสะท้อนของหน้าจอลงอีกด้วย

ในเรื่องของวิธีการใช้งานนั้น ใครเคยใช้ Tablet PC ของ Microsoft เมื่อก่อน มันใช้งานอย่างไร กับ Duo 11 ก็ใช้งานเหมือนกัน ฟีเจอร์ทุกอย่างยังอยู่ครบ แค่จับมาแต่งหน้าทาปากบน Windows 8 เท่านั้นเอง แต่แนวทางการใช้ปากกากับการใช้มัลติทัชควบคุมบน Windows 8 นั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง อะไรที่ทำในการทัชได้ ไม่จำเป็นว่าต้องทำได้เวลาใช้ปากกา เท่ากับว่าในการใช้งาน Duo 11 เราจะต้องเรียนรู้การใช้งาน Windows 8 จากการอินพุตสามแบบที่มีให้ ซึ่งตรงนี้คงไม่ใช่ความผิดของ Sony แต่เป็นทาง Microsoft ที่ต้องจัดการตรงจุดนี้

โปรแกรมที่รองรับการใช้ปากกาตัวนี้นั้น หากมันรองรับระบบ Tablet PC ของ Microsoft ก็รองรับการใช้งานทั้งหมด แต่ก็มีบางแอพเช่น Reader ที่ยังใช้ยางลบไม่ได้ หรือโปรแกรม Adobe Photoshop Element 10 ที่แถมมาให้ ไม่สามารถใช้งานเป็นปากกาได้เลย

ส่วนเรื่องเสียงของ Duo 11 เสียงของลำโพงที่ติดมาจะเน้นในส่วนของเสียงกลาง ซึ่งดัง ชัดเจน แต่ก็ยังฟังกลวง และไม่มีเบสออกมาเหมือนกับลำโพง Ultrabook อื่น ๆ แต่ในส่วนของแจ็คหูฟังนั้นเรียกว่าจัดเต็ม เสียงที่ออกจากแจ็คหูฟังซึ่งใช้แอมป์ดิจิตอล S-Master ในการขับนั้นหนา ชัดเจน ไม่มีเสียงจี่รบกวนเหมือนในแล็ปท็อปทั่ว ๆ ไป ผมลองเอาหูฟังที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันทั้ง super.fi 3 studio และ XBA-1 มาลองดู เสียงที่ได้นั้นหนาและมีพลังกว่า iPOD nano ที่ใช้ทดสอบหูฟังเป็นประจำซะอีก

สำหรับเสียงของหูฟัง NC033L2 ที่ให้มา ออกมาในแนวเหมือนหูฟังตัวขับแบบไดนามิค คือเน้นเสียงกลางและเบสมากกว่าเสียงแหลม เสียงเบสลงได้ลึกกว่าหูฟังประจำผมทั้งสองตัว แต่ไม่ถึงขนาดดังเหมือนฟังกับลำโพงที่มีซับ การแยกรายละเอียดเสียงทำออกมาได้ดี มิติเสียงกว้าง ไม่อุดอู้

ส่วนระบบตัดเสียงรบกวน เนื่องจากตัวหูฟังมันเป็นแบบสอดหูอยู่แล้ว เลยสามารถกันเสียงเข้าออกได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็เจอปัญหาเหมือนกับ XBA-1 ที่เคยรีวิว คือกันเสียงต่ำ ๆ ได้ไม่ค่อยดี แต่รอบนี้สามารถกันได้ด้วยการเปิด Noise Canceling แทน ซึ่งยอมรับว่าพอเปิดแล้วมันเงียบจริง ตัดได้แม้กระทั่งคนคุยกันที่ไม่ดังมากได้

ส่วนของกล้อง อย่างที่บอกไปแล้วว่ามันคือกล้องเว็บแคม fixed focus ทั้งด้านหน้าและหลัง เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องหวังคุณภาพของมันมากครับ จากการลองเอาไปถ่ายเล่น ๆ พบว่าการปรับแสงอัตโนมัติทำออกมาได้ดี (แต่ช้า) และ noise เยอะมาก แถมในส่วนของกล้องหน้าเวลาสไลด์คีย์บอร์ดแล้ว กล้องมันจะเอียงเลยหน้าเลย ทำให้ถ้าอยากคุยเห็นหน้ากัน ต้องชะโงกหน้าไปหากล้อง ไม่ก็ถือเครื่องในโหมดแท็บเล็ตแทน

เรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้นขณะใช้งาน ทาง Sony ออกแบบการระบายความร้อนต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาด โดยวางฮีทซิงก์ทองแดงและช่องรับลมต่าง ๆ ไว้ด้านหลังเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องทางฝั่งคีย์บอร์ดเมื่อสไลด์หน้าจอแทบไม่มีความร้อนเกิดขึ้นเลย และในโหมดแท็บเล็ตเองก็จะมีความร้อนตรงบริเวณใกล้ ๆ ฮีทซิงก์เท่านั้น ระบบระบายความร้อนเองก็จัดว่าเงียบ ถึงแม้จะเริ่มมีการใช้งานหนัก ๆ บ้างก็ตาม

ส่วนของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ที่ให้มาจะเป็นแบบ Li-Polymer อายุการใช้งานเคลมไว้ที่ 4.5 ชม. ผมลองใช้งานเปิดเว็บ ต่อ Wi-Fi ปรับความสว่างหน้าจอกลาง ๆ ใช้ไปเกือบ 4 ชม. แบตเหลือประมาณ 20% สำหรับการชาร์จกลับ สามารถชาร์จได้รวดเร็วมากประมาณ 2 ชม.

สำหรับจุดอื่น ๆ ที่อยากพูดถึงก็มีเรื่องของ Wi-Fi รับส่งสัญญาณได้ดีมาก NFC ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Android Beam ได้ แต่ยังส่งรูปไม่ได้ และใช้งานยาก เพราะต้องยกหลังเครื่องขึ้นมาแตะกับเครื่องอื่น (อย่าลืมว่าเครื่องหนัก 1.3 กก.) และตอนที่เวลาเราหมุนหน้าจอค้างไว้แล้วสไลด์คีย์บอร์ดมาใช้ หน้าจอจะไม่ยอมหมุนกลับมาให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า Sony พลาดตรงนี้ไปได้อย่างไรกัน Sony ออกอัพเดท VAIO Control Center แก้ปัญหาตรงนี้แล้ว โดยไม่ว่าหน้าจอของเราจะอยู่ในองศาไหนก็ตามตอนโหมดแท็บเล็ต เมื่อสไลด์คีย์บอร์ด หน้าจอจะกลับมาอยู่ในแนวนอน พร้อมสั่งปิด Autorotation ครับ

Conclusion

จากการใช้ชีวิตร่วมกับมันมา ยอมรับว่ามันช่วยให้ผมทำอะไรได้มากกว่าแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตอื่นจริง ๆ Sony ทำได้ดีกับการนำข้อดีของอุปกรณ์ทั้งสองชนิดมารวมกัน แล้วใส่เทคโนโลยีดี ๆ ที่ตัวเองมีอยู่แล้วลงไป ทำให้ตอนนี้มันเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 8 ไม่กี่ตัว ที่รองรับอินพุตควบคุม การเชื่อมต่อ เซนเซอร์ที่ครบเครื่องมากที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวมันเองก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน ทั้งเรื่องขนาดที่ไม่ได้กะทัดรัดอย่างที่คิด น้ำหนักที่จัดว่าหนักสำหรับการใช้งานเป็นแท็บเล็ต

โดยรวมแล้ว Sony VAIO Duo 11 เป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน Windows 8 ทั้งสองโลก คือ เรื่องความบันเทิงและเรื่องงานได้ดีที่สุดในขณะนี้ครับ เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ไม่เคยใช้ Windows 8 แล้วไปเริ่มต้นลองเล่นกับเครื่องนี้เป็นเครื่องแรก คุณจะต้องหลงรักทั้ง Duo 11 และ Windows 8 อย่างแน่นอน

Like

• วัสดุและงานประกอบเนี๊ยบ
• หน้าจอพาเนล OptiContrast สีสด คมชัด มุมมองกว้าง
• รองรับการอินพุทอันหลากหลาย ทั้งหน้าจอสัมผัส ปากกา คีย์บอร์ด และ optical trackpad
• ฟีเจอร์เสริมของปากกาใช้งานได้จริง ทั้ง Active Clip , Note Anytime และแอพอื่น ๆ ที่รองรับ Tablet PC
• รองรับการเชื่อมต่ออย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.0, VGA, HDMI, Gigabit LAN, a/b/g/n WiFi, Bluetooth 4.0 + HS และ NFC
• แจ็คหูฟังพร้อมแอมป์ S-Master หูฟัง Noise Canceling
• มันเกิดมาเพื่อ Windows 8 จริง ๆ

Don’t like

• ขอบจอที่เป็นพลาสติกเป็นรอยขนแมวง่าย
• ขนาดและน้ำหนักเยอะไปเมื่อเทียบกับแท็บเล็ต
• คีย์บอร์ดไม่เหมาะกับการพิมพ์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ
• กล้องคุณภาพไม่ดีอย่างที่คิด
• การใช้งานบางฟีเจอร์นั้นออกแบบมาไม่ดี เช่น ตำแหน่งปุ่มปรับเสียง การใช้งาน NFC หน้าจอที่ไม่ยอมกลับตำแหน่งเดิมเมื่อสไลด์คีย์บอร์ด
• แอพเฉพาะของ Sony ฝั่ง Modern UI ยังไม่มีฟีเจอร์ที่แตกต่างจากแอพของ Microsoft และยังมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควร

More info

Sony Asia