เนื่องจากวันนี้ทาง Sony ได้จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตระกูล VAIO รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Windows 8 ทางเราจึงขอนำเอารายละเอียดที่น่าสนใจมาฝากกันครับ
สำหรับ VAIO รุ่นใหม่นี้ ทาง Sony เองได้คิดสโลแกนขึ้นมาใหม่ว่า”There’s more to the Touch” เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่า VAIO รุ่นใหม่ ๆ นี้จะเน้นในเรื่องของการทัชมาขึ้นสอดคล้องไปกับรูปแบบการใช้งานของ Windows 8 ครับ
สำหรับความพิเศษของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 8 จากทาง Sony นั้นคือเรื่องของงานออกแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบคอมพิวเตอร์คำนึงถึงการใช้งานแบบทัชในสถานการณ์จริงต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ที่พยายามยัดความสามารถทัชลงไปเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ดูในเรื่องของลักษณะการใช้งาน จนทำให้ได้ VAIO รุ่น Duo 11 และรุ่น Tap 20 ออกมา
นอกจากนี้ทาง Sony เองยังได้ปรับซอฟต์แวร์บันเดิ้ลใหม่ 4 ตัว ที่สามารถใช้งานจากส่วนของ Modern UI ได้เลย คือ Music , Social, Album และ VAIO Movie Creator ซึ่งตัวหน้าตานั้นก็ออกแบบมาให้สอดคล้องกันกับอุปกรณ์พกพาในตระกูล Xperia ตามยุทธศาสตร์ของทาง Sony เอง และสำหรับในไทยทาง Sony ยังออกแอพ vMUSIC สำหรับ VAIO ที่ใช้ Windows 8 ทุกเครื่องสามารถเข้าไปฟังเพลงและดูมิวสิควิดีโอของ BEC-Tero Music อีกด้วย
จบเรื่องซอฟต์แวร์ เราไปดูตัวเครื่องจริง ๆ กัน
VAIO Duo 11
เนื่องจากตัวนี้เคยลองเล่นไปแล้ว ก็สามารถไปอ่านรายละเอียดที่เคยเขียนไว้ได้ แต่ผมได้มีสอบถามเพิ่มเติมเรื่องของ Sheet Battery หรือแบตเตอรี่เสริมที่เสียบกับตัวเครื่องด้านนอก เพราะว่าตัวแบตมันจะลาดลง เลยไม่รู้ว่ามีผลต่อองศาการเอียงของจอในโหมดคีย์บอร์ดหรือไม่ ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่าถ้าใส่ตัวแบตไปแล้ว จอจะเอียงเพิ่มอีก 6 องศา และตัวแบตก็มีที่ให้เสียบปากกาเก็บด้วย คนที่อยากเสียบปากกาเก็บไว้กับเครื่อง คงต้องหาแบตเสริมตัวนี้มาใช้ แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มอีก 3 ขีด เป็นประมาณ 1.6 กก.
สำหรับวันวางจำหน่าย ตัวเครื่องขายจริงไปแล้วเงียบ ๆ ในจำนวนน้อยมาก ๆ ตั้งแต่วันที่ 26 แล้ว และจะเริ่มขายเป็นจำนวนปกติในช่วงเดือนพฤศจิกายน ใครยังไม่แน่ใจว่า VAIO รุ่นนี้จะเหมาะกับตัวเองหรือไม่ RE.V-> เราจะเอาเครื่องรุ่นนี้มารีวิวให้อ่านกันเร็ว ๆ นี้ ก็รออ่านกันได้
VAIO Tap 20
VAIO Tap 20 เป็นคอมพิวเตอร์ All-in-One ขนาดจอ 20″ ที่สามารถกลายร่างเป็นแท็บเล็ตขนาดใหญ่สำหรับการใช้งานทัชหลาย ๆ คนพร้อมกันได้ เน้นการใช้งานกันในบ้านเป็นหลัก
สเปกตัวเครื่องเท่ากันกับ Duo 11 เลย แต่เปลี่ยนจาก SSD เป็นฮาร์ดไดร์ฟขนาด 500 GB และรองรับ WLAN ที่ความถี่ 2.4 GHz อย่างเดียวแทน และมีแบตเตอรี่ในตัว ทำให้สามารถย้ายเครื่องได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 5.2 กก.
พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มา จัดว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพวกคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ แต่ก็มี NFC ติดมาให้ใช้งานกันด้วย
ขาตั้งหลังเครื่องสามารถปรับองศาของตัวเครื่องได้ และสามารถพับลงไปเพื่อให้กลายเป็นโหมดแท็บเล็ตได้
VAIO T Series
ซีรีย์ T หรือซีรีย์ Ultrabook ของ Sony ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นพิเศษ นอกจากรุ่นจอ 13.3″ จะเปลี่ยนไปใช้จอที่รองรับการทัชได้ และเพิ่มรุ่นจอ 14″ ที่มีไดร์ฟ DVD มาให้ สเปกเครื่องทุกอย่างเหมือนเดิม และแน่นอนว่ารุ่น 13.3″ ปกติก็เลิกขายไป
ตอนนี้รุ่น 13.3″ วางขายแล้วด้วยราคาที่จัดว่าราคาไม่แรงมากนัก เมื่อเทียบกับคุณภาพวัสดุ งานออกแบบ และหน้าตาของมันครับ
VAIO E Series
สำหรับซีรีย์ E ก็มีเพิ่มรุ่นที่เป็นจอแบบทัชได้เข้ามา เป็นจอขนาด 14″ ซึ่งในตอนนี้ในบรรดาคอมพิวเตอร์ที่ทัชได้ทั้งหมดของ Sony ตัวนี้เป็นตัวที่มีสเปกแรงที่สุดในกลุ่มครับ
นอกเหนือจากรุ่นทัชแล้ว ทาง Sony ยังออกรุ่นพิเศษที่ฝาหลังเครื่องทำลายนูนสูง และใช้คริสตัลจาก SWAROVSKI ประดับ สเปกของเครื่องเท่ากับตัวด้านบน เว้นแต่ว่าจอทัชไม่ได้แค่นั้น
VAIO S Series
สำหรับซีรีย์นี้ไม่มีตัวเครื่องมาโชว์ในงาน เพราะเป็นรุ่นเดียวที่ไม่มีการใส่ระบบทัชมาให้ ความเปลี่ยนแปลงก็คือมีการนำรุ่นโมเดลสีแดงเข้ามาขายเพิ่ม แต่ตัดรุ่น S 13 Premium ทิ้งไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะถ้าไม่นับซีรีย์ Z ที่เป็นแล็ปท็อปบางเบาแต่อัดสเปกมาเต็มสูบ ที่ทาง Sony ประกาศเลิกผลิตไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่ซีรีย์ S 13P นี้แหละที่สามารถยัดสเปกแรง ๆ การ์ดจอแยก จอความละเอียดสูง และไดร์ฟอ่านแผ่น ในตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ – อลูมิเนียมได้ในน้ำหนักเพียงประมาณ 1.6 กก. เท่านั้น
ตัวท็อปทางฝั่ง 13.3″ ตอนนี้เป็นเพียงแค่รุ่น S 13 ธรรมดาซึ่งเป็นตัวถึงแบบแมกนีเซียม – อลูมิเนียม ซีพียู Core i5 การ์ดจอ NVIDIA Geforce GT 640M LE และจอความละเอียดเพียง 1366 x 768 ในน้ำหนัก 1.72 กก. แต่อย่างไรก็ตาม การลดตัวท็อปเหลือเพียง S 13 ปกติ อาจจะทำให้ค่าตัวของมันถูกลงก็เป็นได้
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทาง Sony ที่เชิญไปร่วมงานในวันนี้ด้วยครับ
More info