SRS-X9 ประกอบไปด้วยดอกลำโพง subwoofer ขนาด 94 มม. พร้อม passive radiator 2 ดอก เพื่อช่วยในการขับเสียงเบส บริเวณขอบของดอกลำโพงจะทำรอยบากเรียกว่า Tangential edge ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับดอกลำโพงทำให้ขับเสียงได้ดีขึ้น
ดอกลำโพง Full-Range 50 มม. 2 ดอก ที่ใช้เทคโนโลยี Magnetic Fluid Speakers ของ Sony ซึ่งเป็นการเปลี่ยนส่วน damper (ส่วนสีแดงในรูป) ที่ใช้ซับแรงที่เกิดจากการขยับของ voice coil เป็นตัวซับแรงที่ใช้แม่เหล็กเหลวเป็นส่วนประกอบแทน
ด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้ดอกลำโพง Magnetic Fluid Speakers มีสัญญาณรบกวนที่เกิดจาก damper น้อยกว่าและช่วยให้ประหยัดพลังงานในการขับลำโพงอีกด้วย
ดอกลำโพง Super Tweeter ขนาด 19 มม. ถูกติดตั้งไว้ด้านหน้าและด้านบนของลำโพง สำหรับดอกลำโพงด้านบนจะอยู่ในกรอบยางปิดด้วยตะแกรงโลหะ ช่วยในการขับสัญญาณเสียงในความถี่ที่สูงมาก ๆ
บริเวณมุมของลายเส้น Definitive Outline จงใจทำให้มนเพื่อการป้องกันการสะท้อนของเสียงที่มาจากดอกลำโพงด้านบนของลำโพง
ด้านบนจะเป็นที่อยู่ของเสาอากาศ NFC สำหรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และปุ่มควบคุมแบบสัมผัส 2 ชุด คือชุดปุ่มเปิด – ปิด และเพิ่มลดเสียงลำโพง ซึ่งจะถูกสกรีนไว้บนกระจก และสว่างเมื่อเปิดลำโพงใช้งาน อีกชุดคือปุ่มสำหรับเลือก input ของลำโพง ซึ่งจะปรากฏต่อเมื่อเราเอามือไปไว้ใกล้ ๆ ลำโพง
รีโมทควบคุมขนาดเล็กกะทัดรัด มีเพียงปุ่มสำหรับเลือก input ที่ต้องการเล่น ปรับความดังของเสียง ควบคุมการเล่นเพลง และปิดเสียง ถ้าต้องการตั้งค่าลำโพงอย่างละเอียดต้องใช้งานแอพ SongPal เท่านั้น
ตัวรับสัญญาณอินฟราเรดของรีโมทจะอยู่ทางด้านขวาของลำโพง เมื่อลำโพงได้รับคำสั่งจากรีโมทหรือแอพ SongPal ไฟกระพริบสีขาวที่อยู่เหนือตัวรับสัญญาณรีโมทจะติด
ในส่วนวงจรขยายด้านใน ทาง Sony ได้เลือกใช้แอมป์ดิจิทัล S-MASTER HX ที่ทำการขยายสัญญาณเสียงในระหว่างที่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล เพื่อลดความเพี้ยนของสัญญาณและสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการขยายสัญญาณเสียงในรูปแบบอนาล็อกตามปกติ
ซึ่งรูปแบบวงจรของ SRS-X9 จะใช้ชิป S-MASTER HX แบบ 2 ช่องเสียงจำนวน 4 ตัว รับผิดชอบการขับเสียงของดอกลำโพงทั้ง 7 ตัว ร่วมกับวงจรขยายของดอกลำโพงแต่ละตัว มีกำลังขับรวม 154 W
ต่อไป เราจะไปดูในส่วนของ Software และการติดตั้งกัน
Pingback: มาทำความรู้จัก เทคโนโลยีวงจรขยายเสียงดิจิทัล S-Master ของ Sony กันเถอะ ตอนที่ 3 | RE.V –>