สำหรับคนที่ต้องพรีเซนต์งานผ่านคอมพิวเตอร์อยู่บ่อย ๆ ก็คงจะคุ้นเคยรีโมทพรีเซนต์ของ Logitech กันเป็นอย่างดี ทั้งรุ่นประหยัด R400 รุ่นยอดนิยมอย่าง R800 ที่มักจะเป็นตัวเลือกแรกของผู้ที่ต้องพรีเซนต์งานบ่อย ๆ และรุ่นท็อปอย่าง Spotlight ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับงานพูดระดับโลกอย่าง TEDx
วันนี้ RE.V-> ขอนำรีโมทรุ่นล่าสุดคือ R500 ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่าง R400 และ Spotlight มารีวิวให้อ่านกันครับ
Package
R500 จะบรรจุมาในแพ็คพลาสติกแข็ง ที่เวลาแกะแล้วต้องระวังมันบาดมือเอา ด้านหน้าจะแสดงให้เห็นรีโมตตัวจริง ระยะทางที่ทำได้สูงสุด 20 ม. รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, OS X, Android และ iOS รวมทั้งระบุด้วยว่ารองรับการเชื่อมต่อทั้งตัวรับส่งสัญญา่ณ USB และ Bluetooth ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมสนใจเจ้า R500 นี้
ตัวรีโมทจะมี 2 สีให้เลือกคือสีดำตามในรูป และสีเทาซึ่งจะมีปุ่มสีขาว
ด้านหลังระบุถึงความสามารถของแอพ Logitech Presentation ที่ใช้งานคู่กับรีโมทตัวนี้ ฟังก์ชั่นของรีโมทคร่าว ๆ และอุปกรณ์ที่ให้มาด้วย ซึ่งก็คือตัวรีโมท ตัวรับส่งสัญญาณ USB ถ่าน AAA และเอกสารต่าง ๆ
วิธีการใช้งานแบบรวดเร็วจะพิมพ์อยู่บนแผงกระดาษที่ระบุข้อมูลต่าง ๆ ข้างต้น และมีเอกสารเรื่องความปลอดภัยแยกออกมาต่างหาก
Product
ตัว R500 ทำจากพลาสติกด้าน ด้านบนเคลือบผิวซอฟต์ทัชไว้ มีขนาดกำลังพอดีมือ บนตัวมีเพียงไฟสถานะ และปุ่มเพียง 3 ปุ่ม จัดรูปแบบการวางแบบรีโมทรุ่น Spotlight ได้แก่ ปุ่มตัวชี้เลเซอร์ ปุ่ม Next และ ปุ่ม Back
ปุ่ม Next และ Back นอกจากจะสามารถกดเพื่อส่งคำสั่งแล้วตามปกติแล้ว ยังสามารถกดค้างเพื่อส่งคำสั่งอื่นตามที่ตั้งค่าไว้ในโปรแกรม Logitech Presentation ได้อีกด้วย ซึ่งค่า default ที่โปรแกรมตั้งมาให้คือ เริ่มการนำเสนอ (ปุ่ม Next) และเปิดหน้าจอเปล่า (ปุ่ม Back) เช่นเดียวกับ R400 และ R800 ที่มีปุ่มดังกล่าวแยกเฉพาะออกไป
ปลายด้านบนเป็นตำแหน่งของหลอดเลเซอร์สีแดง สำหรับเอาไว้ชี้จุดที่ต้องการ
สำหรับใครที่ไม่ได้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth R500 ยังมีตัวรับส่งสัญญาณ USB จะเสียบอยู่ช่องด้านล่างของรีโมทไว้ให้ใช้ด้วย
ตัวรีโมทใช้พลังงานจากถ่านขนาด AAA จำนวน 1 ก้อน โดยเวลาเปิดฝาจะต้อง “บีบ” ฝาตรงบริเวณส่วนที่เป็นหลุมเล็ก ๆ ทั้งสองตรงด้านข้างของฝาแล้วสไลด์ออกมา
R500 รองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรม Logitech Presenter เช่นเดียวกับ Spotlight โดย R500 จะได้ฟังก์ชั่นในการตั้งค่าปุ่ม Next และ Back เมื่อกดปุ่มดังกล่าวค้าง ตัวจับเวลา และตัวแสดงปริมาณแบตเตอรี่
ต่อไปเราจะไปดูการติดตั้งและใช้งานจริงกัน