ช่วงงาน Computex เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว Sony ก็ได้ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป VAIO Pro ที่มาแทนแล็ปท็อปกลุ่มใช้งานธุรกิจ และ VAIO Duo 13 ทายาทของแล็ปท็อปแปลงร่าง VAIO Duo 11 ที่มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ เมื่อปีที่แล้ว วันนี้ RE.V-> มีข้อมูลของสเปกของเครื่องที่จะมานำจำหน่ายในไทยมาฝากครับ

VAIO Pro 11

สำหรับซีรีย์ VAIO Pro นั้นจะเป็นแล็ปท็อปที่จับกลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจที่ต้องการแล็ปท็อปที่บางเบา แต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง โดยตัวเครื่องจะทำจากคาร์บอนไฟเบอร์แบบชิ้นเดียวและส่วนที่รองมือที่ทำจากอลูมิเนียม ทำให้ได้น้ำหนักที่เบา ซึ่งรุ่นหน้าจอ 11.6 นิ้ว หนักเพียง 0.77 กก.เท่านั้น

สำหรับรุ่นที่จะขายในไทยมีรหัส SVP11215SHBI สีดำ มีสเปกดังนี้

• CPU: Intel Core i5-4200U ความเร็ว 1.60 GHz สามารถทำ Turbo Boost ได้สูงสุด 2.60 GHz
• RAM: DDR3 ความเร็ว 1600 MT/s ขนาด 4  GB บัดกรีลงบอร์ด
• สื่อบันทึกข้อมูล: SSD ความจุ 128 GB เชื่อมต่อผ่าน SATA
• GPU: Intel HD Graphics 4400
• หน้าจอ: TRILUMINOS DISPLAY for mobile ความละเอียดระดับ Full HD
• กล้องหน้า: เซนเซอร์ Exmor R for PC ความละเอียด 0.92 ล้านพิกเซล พร้อมไมโครโฟนคู่
• พอร์ตเชื่อมต่อ: USB 3.0 แบบชาร์จไฟอุปกรณ์ 1 พอร์ต แบบปกติ 1 พอร์ต HDMI 1 พอร์ต สล็อตการ์ด SDXC และแจ็คเสียบหูฟังพร้อมไมโครโฟน
• การเชื่อมต่อเครือข่าย: WiFi a/b/g/n ความเร็ว 300 Mbps, Bluetooth 4.0+ HS และ NFC
• Windows 8 Single Language 64 bit

สเปกโดยรวมของรุ่นนี้ ถือว่าจัดมาโอเค ส่วนแรมที่ให้มาที่ดูท่าทางจะน้อยนั้น มันเป็นลิมิทของรุ่นนี้ที่ใส่แรมได้เท่านี้ครับ

VAIO Pro 13

พี่ใหญ่ของซีรีย์ Pro หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ชูจุดเด่นเรื่อง SSD ที่เชื่อมต่อผ่าน PCI Express ความเร็วสูง เรียกว่ามาแทนซีรีย์  Z ที่เน้นเรื่องสื่อบันทึกข้อมูลความเร็วสูงเหมือนกัน แต่ของ Z เขาใช้ SSD 2 ตัวมาต่อ RAID 0 นะจ๊ะ

สำหรับรุ่นที่ขายในไทยจะเป็นรุ่น SVP13215SHS สีเงิน และ SVP13217PHB สีดำ ซึ่งจะมีสเปกเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ความจุของ SSD ที่ให้มา และเวอร์ชั่นของ Windows 8

• CPU: Intel Core i5-4200U/ Core i7-4500U ความเร็ว 1.80 GHz สามารถทำ Turbo Boost ได้สูงสุด 3.00 GHz
• RAM: DDR3 ความเร็ว 1600 MT/s ขนาด 4  GB บัดกรีลงบอร์ด
• สื่อบันทึกข้อมูล: SSD เชื่อมต่อผ่าน PCI Express ความจุ 128 GB/ 256 GB
• GPU: Intel HD Graphics 4400
• หน้าจอ: TRILUMINOS DISPLAY for mobile ความละเอียดระดับ Full HD รองรับการควบคุมด้วยการสัมผัส
• กล้องหน้า: เซนเซอร์ Exmor R for PC ความละเอียด 0.92 ล้านพิกเซล พร้อมไมโครโฟนคู่
• พอร์ตเชื่อมต่อ: USB 3.0 แบบชาร์จไฟอุปกรณ์ 1 พอร์ต แบบปกติ 1 พอร์ต HDMI 1 พอร์ต สล็อตการ์ด SDXC และแจ็คเสียบหูฟังพร้อมไมโครโฟน
• การเชื่อมต่อเครือข่าย: WiFi a/b/g/n ความเร็ว 300 Mbps, Bluetooth 4.0+ HS และ NFC
• Windows 8 Single Language 64 bit / Pro

สำหรับสเปกที่จัดมาให้สำหรับรุ่นนี้ ผมคิดว่าตัวรุ่นบนควรจะใช้ซีพียูเป็น Core i7 และเพิ่มแรมเป็น 8 GB ได้แล้ว แต่ว่าพอดู ๆ รุ่น Oversea Model หรือรุ่นที่ขายให้นักท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ใส่แรม 8 GB มาให้ ก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน

อีกจุดหนึ่งที่ผมยังไม่ชัวร์ในสเปกของไทย เพราะเว็บมีข้อมูลบอกมาน้อยคือ SSD เพราะในเว็บญี่ปุ่นระบุว่ารุ่น 128 GB จะเป็น SSD ธรรมดา มีเฉพาะความจุ 256 GB ขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะเชื่อมต่อผ่าน PCI Express ความเร็ว  20 Gbps

VAIO Duo 13

สำหรับเจ้าแล็ปท็อปแปลงร่างรุ่นใหม่ ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก Duo 11 ที่ออกมาก่อนหน้ามาก ทั้งวัสดุที่ใช้ทำ ก็เปลี่ยนจากแมกนีเซียมเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ กลไก Surf Slider ก็ออกแบบมาให้เล็กลง ทำให้ขนาดและน้ำหนักของ Duo 13 นั้นใกล้เคียงรุ่นเก่ามาก ถึงแม้จะมีจอขนาดใหญ่กว่าก็ตาม

สำหรับในไทย รุ่นที่จะนำมาขายคือรุ่น SVD13212SHB สีดำ มีสเปกดังนี้

• CPU: Intel Core i5-4200U ความเร็ว 1.60 GHz สามารถทำ Turbo Boost ได้สูงสุด 2.60 GHz
• RAM: DDR3 ความเร็ว 1600 MT/s ขนาด 4  GB บัดกรีลงบอร์ด
• สื่อบันทึกข้อมูล: SSD ความจุ 128 GB เชื่อมต่อผ่าน SATA
• GPU: Intel HD Graphics 4400
• หน้าจอ: TRILUMINOS DISPLAY for mobile ความละเอียดระดับ Full HD พาเนลแบบ OptiContrast รองรับการควบคุมด้วยการสัมผัส และปากกาสไตลัส
• กล้องหน้า: เซนเซอร์ Exmor R for PC ความละเอียด 2.07 ล้านพิกเซล พร้อมไมโครโฟนคู่
• กล้องหลัง: เซนเซอร์ Exmor RS for PC ความละเอียด 7.99 ล้านพิกเซล
• พอร์ตเชื่อมต่อ: USB 3.0 แบบชาร์จไฟอุปกรณ์ 1 พอร์ต แบบปกติ 1 พอร์ต HDMI 1 พอร์ต สล็อตการ์ด SDXC / Memory Stick และแจ็คเสียบหูฟังพร้อมไมโครโฟน
• การเชื่อมต่อเครือข่าย: WiFi a/b/g/n ความเร็ว 300 Mbps, Bluetooth 4.0+ HS และ NFC
• Windows 8 Single Language 64 bit

สเปกไม่แตกต่างจาก Duo 11 เมื่อปีที่แล้วเลย เพียงแต่อัพเกรดสเปกให้ทันยุคสมัยเท่านั้น สำหรับผู้นิยมความแรง แนะนำรุ่น Oversea Model ที่ใส่ซีพียู Core i7 แรม 8 GB SSD ขนาด 256 GB พร้อมทั้งรองรับเครือข่ายเคลื่อนที่ 3G หรือ LTE ให้เลือกอีกด้วย

ทุกรุ่นที่ว่าจะมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ชาร์จไฟรุ่นใหม่ที่มีพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟอุปกรณ์พกพาหรือต่ออุปกรณ์เสริม เราท์เตอร์ไร้สายมาตรฐาน N ความเร็ว 150  Mbps ที่ออกแบบมาให้ใช้งานกรณีที่เราต้องเชื่อมต่อสาย LAN กับคอมพิวเตอร์ และหัวแปลง HDMI – VGA ครับ

สำหรับเรื่องราคาและรุ่นที่เป๊ะ ๆ จริง ๆ คงต้องรอให้ทาง Sony บ้านเราประกาศอีกครั้ง แต่แง้ม ๆ ว่าเครื่องรุ่นที่มาเล่าให้ฟังวันนี้จะเริ่มขายประมาณช่วงปลายเดือนนี้ครับ

More info

Sony Asia