เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Sony ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่ออัพเดทข้อมูลสินค้าหมวดเครื่องเสียงพกพารุ่นใหม่ ๆ ที่ได้เปิดตัวไปในช่วงงาน CES เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
RE.V-> เลยขอนำข้อมูลที่ได้จากในงานวันนั้น มาฝากให้คนที่สนใจเลือกซื้อสินค้าในหมวดดังกล่าวครับ
Headphones
ในส่วนของหูฟัง ทาง Sony ได้ออกหูฟังไร้สายเพิ่มเติมเข้ามาในสินค้าตระกูล h.ear ได้แก่ h.ear on Wireless NC และ h.ear in Wireless ซึ่งหูฟังทั้ง 2 รุ่นก็จะมีพื้นฐานมาจากหูฟัง h.ear on และ h.ear in ตัวปกติที่เปิดตัวในงานเมื่อปีที่แล้ว
รูปร่าง หน้าตา และสเปกของ h.ear on Wireless NC หรือ MDR-100ABN นั้นยังคงเหมือนกับ h.ear on ตัวปกติ เพียงแต่เพิ่มในส่วนการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth ที่รองรับ LDAC และระบบตัดเสียงรบกวน Digital NC รุ่นใหม่ ที่รองรับการประมวลผลเสียงที่ 24-bit 96 kHz ตามข้อกำหนด Hi-Res Audio
การควบคุมหูฟังของ h.ear on Wireless NC ทำได้ผ่านปุ่มกดและก้านโยก และสามารถใช้งานแบบเสียบสายได้เหมือนกับหูฟัง Bluetooth ของ Sony ตัวอื่น ๆ
ส่วนตัว h.ear in Wireless หรือ MDR-EX750BT นั้น ตัวหูฟังเรียกได้ว่าถอดกันมากับตัว h.ear in ปกติเลย ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ที่คาดคอซึ่งเป็นตำแหน่งชุดวงจร Bluetooth ปุ่มควบคุม และแบตเตอรี่ของหูฟัง และแน่นอนว่าการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth นั้นก็รองรับ LDAC ด้วยเหมือนกัน
นอกจากตระกูล h.ear แล้ว Sony ยังได้ออกหูฟังไร้สายในตระกูล Extra Bass รุ่นใหม่คือ MDR-XB650BT ซึ่งถูกวางตัวให้เป็นหูฟังไร้สายตัวรองจาก MDR-XB950BT ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของตระกูล แต่ปรับขนาดและน้ำหนักลงมา ทำให้สวมใส่และพกพาได้สะดวกกว่าเดิม
MDR-XB650BT ใช้ชุดตัวขับขนาด 30 มม. และแพดฟองน้ำทรงโดนัทเช่นเดียวกับหูฟังครอบหูตระกูลXB ตัวอื่น ๆ
ปุ่มควบคุมต่าง ๆ เป็นปุ่มกดและก้านโยก ไม่แตกต่างจากหูฟัง Bluetooth รุ่นอื่น ๆ ของ Sony
Wireless Speaker
ในส่วนของลำโพงไร้สายนั้น Sony ได้ยุติบทบาทของลำโพงในตระกูล SRS-X ในบางระดับราคาลง แล้วแทนที่ด้วยลำโพงรุ่นใหม่จากตระกูล h.ear และ Extra Bass แทน
h.ear Go หรือ SRS-HG1 เป็นลำโพงไร้สายแบบพกพา ที่ถูกวางตัวให้มาแทนลำโพงไร้สายรุ่น SRS-X55 เดิม โดย h.ear Go จะเน้นในเรื่องของแฟชั่นและคุณภาพเสียงเช่นเดียวกับสินค้าอื่น ๆ ในตระกูล h.ear
จุดเด่นของ h.ear Go คงจะหนีไม่พ้นดอกลำโพง full range ขนาด 35 มม. ที่สามารถตอบสนองความถี่ได้ 60 – 40,000 Hz ดอก dual passive radiator ที่ช่วยเพิ่มการตอบสนองเสียงเบส และแอมป์ดิจิทัล S-Master HX กำลังขับรวม 24 W นอกจากนี้หากเสียงเบสที่ได้ยังไม่สะใจ ก็สามารถเปิด Extra Bass เพื่อเพิ่มเสียงเบสให้มากขึ้นได้
h.ear Go นั้นรองรับการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลายทั้ง การต่อผ่านสาย 3.5 มม. การต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth และ WiFi และที่จัดว่าเด็ด คือสามารถต่อผ่าน Micro USB เพื่อใช้ภาค DAC ภายในลำโพง ซึ่งรองรับสัญญาณเสียงแบบ LPCM ที่ความละเอียดสูงถึง 24-bit 192 kHz ได้ แถมยังสามารถแปลงสัญญาณ DSD เป็น PCM ได้ด้วย นี่มันคือ SRS-X99 ย่อส่วนลงมาชัด ๆ
ต่อไป เราไปดูลำโพงไร้สายตระกูล XB กันครับ