ลองฟังหูฟัง WF-1000XM3 และ WH-XB900N ในงาน Sony Sound Experience Day 2019

Sony Sound Experience Day 2019

เมื่อวานนี้ RE.V-> ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Sony Sound Experience Day 2019 ซึ่งเป็นงานที่ทาง Sony Thai ได้เปิดตัวหูฟัง Truly Wireless ตัวท็อปอย่าง WF-1000XM3 อย่างเป็นทางการ

เราก็ขอมาเล่าถึงการทดลองฟังเสียงของหูฟังรุ่นนี้ รวมถึงหูฟังไร้สายตระกูล Extra Bass ตัวใหม่อย่าง WH-XB900N ที่กำลังจะวางขายเร็ว ๆ นี้ด้วยครับ

WF-1000XM3

Sony WF-1000XM3

จากที่เคยเขียนข่าวเดิมและเล่าให้ฟังใน Podcast ตอนก่อนหน้า ผมก็ได้มีโอกาสฟังหูฟัง Truly Wireless สุดฮ็อตตัวนี้สักที และแน่นอนว่ามันก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะมีบางจุดที่ผมคาดหวังเอาไว้มากก็ตาม

Sony WF-1000XM3

ตัวเคสของ XF-1000XM3 ดูมีขนาดใหญ่กว่าหูฟัง Truly Wireless ยี่ห้ออื่น แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าพกพาสะดวกได้อยู่ อย่าลืมว่าในเคสมีแบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อการชาร์จหูฟังได้ถึง 3 ครั้งอยู่ภายใน

Sony WF-1000XM3

เปิดฝากล่องออกมาก็จะเจอตัวหูฟังที่ยึดกับเบ้าในกล่องด้วยแม่เหล็ก เสาอากาศ NFC สำหรับไว้จับคู่การเชื่อมต่อก็จะปรากฏขึ้นมาให้เห็นด้วย

ผมได้ลองเชื่อมต่อ XF-1000XM3 เข้ากับ Xperia XZ ของผม ซึ่งตอนแรกการเชื่อมต่อนั้นมาแค่ Call Audio อย่างเดียว เพราะ Media Audio ยังเชื่อมอยู่กับ Walkman ZX100 อยู่ สามารถผมเลยเปิดแอพ Sony | Headphones Connect แล้วทำการเชื่อมต่อใหม่หมดถึงจะใช้งานบน Xperia XZ ได้ เรื่องนี้ทำผมแปลกใจนิดหน่อย เพราะไม่คิดว่ามันจะรองรับความสามารถ Multipoint ระหว่างการรับสายและการฟังเพลงเหมือนรุ่นพี่มันด้วย

เรื่องการสวมใส่นั้น เบื้องต้นคิดว่าทำออกมาได้ดี ตัวหูฟังนั้นเกาะหูดีมาก แต่จุกยาง Hybrid Silicone ขนาดมาตรฐานนั้นมีขนาดเล็กและยาวกว่าจุกยางของหูฟัง Sony รุ่นอื่น ผมใส่แล้วไม่พอดี เลยต้องขอจุกโฟม Triple Comfort ที่ผมใช้งานประจำอยู่แล้วมาใส่แทน

Sony WF-1000XM3

จากการทดลองฟังอยู่สั้น ๆ รู้สึกว่าน้ำเสียงของ XF-1000XM3 ยังคงบุคลิกของหูฟังตระกูลนี้เอาไว้ คือเบสมีแต่พอเหมาะ กลางไม่หนาไม่บาง และย่านเสียงแหลมที่คมและมีรายละเอียด มิติเสียงทำออกมาได้ดี ส่วนการตัดเสียงรบกวนนั้น ทำได้แบบเงียบสนิทจริง ๆ ไม่ได้เป็นแบบได้ยินเสียงน็อยซ์เบา ๆ เหมือนอย่างระบบตัดเสียงรบกวนแบบเดิม ๆ แล้ว

เรื่องของสัญญาณนั้น ผมได้เชื่อมต่อแบบเน้นคุณภาพ พบว่าสัญญาณไม่มีการหลุดเลยระหว่างที่ฟัง อย่างไรก็ตาม ผมสังเกตว่าการทำงานของตัวหูฟังฝั่งขวานั้นยังคงต้องตามฝั่งซ้ายอยู่ เช่น เวลาเชื่อมต่อตอนที่เปิดเพลงอยู่ เสียงหูฟังฝั่งซ้ายจะมาก่อน แล้วฝั่งขวาถึงจะตามมา ถึงแม้ว่าเมื่อเสียงมาครบทั้งสองฝั่งแล้ว มันจะมาพร้อมกันก็ตาม และเวลาเราแตะตัวหูฟังเพื่อส่งคำสั่ง แล้วมีเสียงสัญญาณของหูฟังขึ้นมา เสียงของหูฟังฝั่งนั้นจะเบาลงเพียงฝั่งเดียว เลยรู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย

เรื่องที่ผมสงสัยมาเฉลยตอนที่คุยกับคนของ Sony ในงานเกี่ยวกับอะไหล่ของหูฟังรุ่นนี้ เลยได้ทราบว่า ตัวหูฟังฝั่งขวานั้น ถ้าต้องซื้อใหม่ ตัวหูฟังสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังฝั่งซ้ายที่มีอยู่ได้เลย แต่ถ้าต้องเปลี่ยนตัวหูฟังฝั่งซ้าย จะต้องเปลี่ยนเสาอากาศ NFC ที่กล่องเก็บหูฟัง และให้ช่างตั้งโปรแกรมภายในใหม่ด้วย

WH-XB900N

Sony WH-XB900N

หูฟังรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงานอีกตัวก็คือ WH-XB900N ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายตระกูล Extra Bass ของ Sony ซึ่งรอบนี้เขาโฆษณาว่าได้ยกเอา Sense Engine ที่อยู่ในหูฟังตระกูล WH-1000X ลงมาไว้ในหูฟังรุ่นนี้เลย

เนื่องจากมีเวลาไม่เยอะ ผมจึงไม่ได้ลองเล่นฟังก์ชั่นของตัว Sense Engine ได้แต่ลองฟังเพลงดู เบื้องต้นคิดว่ายังคงแนวทางเสียงของหูฟังตระกูลนี้อยู่ คือเบสอันทรงพลังมาก ๆ ของมัน แต่ก็ยังคงรายละเอียดย่านเสียงกลางและแหลมเอาไว้อยู่ รวมทั้งระบบตัดเสียงรบกวนยังไม่ไปยุ่งกับเสียงย่านต่ำมากนัก จนทำให้เสียงเบสอันทรงพลังนั้นโดนรบกวนไป

Sony Life Space UX Glass Sound Speaker

นอกจากหูฟังแล้ว ทาง Sony ยังได้ออกสินค้าใหม่อื่น ๆ อีก เช่น ลำโพงไร้สายในสินค้ากลุ่ม Life Space UX รุ่นใหม่อย่าง LSPX-S2 ที่มีขนาดเล็กกว่าและราคาย่อมเยากว่ารุ่น LSPX-S1 ที่ออกมาก่อนหน้านี้

Sony HT-X8500

ลำโพงซาวด์บาร์ HT-X8500 แบบ 2.1 channel ที่มีจุดเด่นคือการรวมเอาซับวูฟเฟอร์เอาไว้ภายในตัวซาวด์บาร์เลย มี Vertical Surround Engine เพื่อจำลองเสียงรอบทิศทางในแนวดิ่ง ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องรองรับระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติอย่าง Dolby Atmos และ DTS:X ด้วย

ใครที่สนใจสินค้าที่เขียนถึงในวันนี้ ทาง Sony ได้เริ่มทยอยขายสินค้าดังกล่าวไปแล้ว ก็สามารถไปติดตามซื้อหาได้ตามร้านค้า Sony เจ้าประจำกันได้ครับ

Leave a Reply