ก็จบไปแล้วสำหรับงานแถลงข่าวสินค้าใหม่ของ Sony ในงาน IFA 2014 นะครับ รูปสินค้าที่หลุดออกมาหลาย ๆ ตัวก็ตรงตามกับสินค้าจริงที่เปิดตัวออกมา ทีมงาน RE.V-> ขอนำรายละเอียดของหูฟังระดับเรือธงทั้งสองตัวได้แก่ MDR-Z7 และ XBA-Z5 มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับ
สำหรับหูฟังเรือธงทั้งสองตัวของ Sony ทางทีมออกแบบได้วางแนวคิด Feel the air. คือให้ผู้ฟังได้รับรู้ถึงบรรยากาศของเสียง นอกเหนือจากรายละเอียดของเสียงที่สมจริงสมจัง ซึ่งแนวคิดที่ว่ามามันก็คือแนวเสียงของหูฟัง MDR-R10 หูฟังระดับตำนานของ Sony ที่เหล่าเกจิให้การยอมรับกันนั่นเอง
MDR-Z7
จุดเด่นของ MDR-Z7 คือตัวขับ HD Driver Unit ขนาด 70 มม. เพื่อให้รูปแบบการแผ่ของเสียงคล้ายคลึงกับลำโพง และใช้ไดอะแฟรมที่ทำจาก Liquid Crystal Polymer (LCP) แล้วเคลือบด้วยอะลูมิเนียม ทำให้ตัวหูฟังสามารถตอบสนองความถี่ได้ในช่วง 3 – 100,000 Hz สูงกว่า MDR-Z1000 และ MDR-1R ที่ตอบสนองความถี่ได้สูงสุดเพียง 80,000 Hz
สำหรับสเปกอื่น ๆ ของ MDR-Z7 ได้แก่มีค่าความไวต่อสัญญาณสูงถึง 105 dB/mW รองรับความแรงของสัญญาณได้ถึง 2,000 mW และมีค่า Impedance เพียง 70 โอห์มเท่านั้น
การเชื่อมต่อของ MDR-Z7 นั้นรองรับทั้งแบบการเชื่อมต่อทั่วไปและการเชื่อมต่อแบบ balanced หรือการเพิ่มสายนำสัญญาณเสียงอีกเส้น แต่สัญญาณที่เพิ่มเข้ามานั้นจะถูกกลับเฟสมาจากต้นทาง เช่นจากแอมป์หูฟัง PHA-3AC เมื่อสัญญาณทั้งสองถูกรวมกันที่ปลายทางด้วยหลักการ Differential Signaling ซึ่งสัญญาณแปลกปลอมในสายจะถูกกำจัดออกไป
ในส่วนของวัสดุเอง ทาง Sony ก็จัดเต็มให้สมกับสินค้าระดับเรือธงของบริษัท ตัวหูฟังทำจากอะลูมิเนียม ก้านและที่คาดหัวทำจากโลหะ หนังที่ใช้หุ้มที่คาดหัวและฟองน้ำก็เป็นหนังแท้เย็บแบบ 3 มิติ และที่สำคัญหูฟังตัวนี้ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ไม่เหมือนตอน MDR-Z1000 ที่ผลิตจากประเทศไทยครับ
XBA-Z5
สำหรับหูฟังสอดหูตัวใหม่ของ Sony ยังคงใช้ตัวขับผสมกันระหว่างตัวขับไดนามิคและตัวขับแบบ BA ในรูปแบบเดียวกับ XBA-H3 ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างกันคืองานออกแบบภายนอกที่ลดขนาดให้กะทัดรัดขึ้นและการปรับปรุงตัวขับภายในทั้งหมด
สำหรับตัวขับแบบไดนามิคนั้น ตัวไดอะแฟรมใช้วัสดุ LCP เคลือบด้วยอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับ MDR-Z7 ในส่วนของตัวขับ BA ทางทีมออกแบบได้เปลี่ยนโครงสร้างภายในใหม่เป็นแบบ Direct Drive เพื่อให้สัญญาณเสียงที่สร้างออกมานั้นเป็นเส้นตรงมากขึ้น นอกจากนี้ตัวขับ Super Tweeter ยังได้เปลี่ยนวัสดุทำไดอะแฟรมเป็นแมกนีเซียมเพื่อเพิ่มการตอบสนองความถี่สูง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับหูฟังระดับเรือธงทั้งสองตัวของ Sony สำหรับราคาของหูฟังทั้งสองตัวนี้ ผมคิดว่าน่าจะออกมาใกล้เคียงกับคู่หูเรือธงอย่าง MDR-Z1000 และ MDR-EX1000 ที่ออกวางขายเมื่อหลายปีก่อน คนที่สนใจก็เตรียมเก็บเงินรอกันได้เลยนะครับ ถ้าทางเรามีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติม ก็จะมานำเสนอให้ได้อ่านกันเช่นเคยครับ
Pingback: รายละเอียดสเปกของ Sony XBA-Z5 และสายอัพเกรดสำหรับการเชื่อมต่อแบบ Balanced