Internet TV
สำหรับฟีเจอร์นี้เรียกว่าไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะมันคือจุดขายของโทรทัศน์เจ้าต่าง ๆ ในปีนี้ ซึ่งหลัก ๆ แล้วใน Internet TV ปีนี้จะต้องมีฟีเจอร์ประมาณนี้

• Internet Video
• Widget และ App
• Search
• Internet Browser
• Video Chat

บางเจ้าอาจจะมีฟังก์ชั่น นู่นนี้มาเพิ่มเติม หรือทำงานแตกต่างกัน ก็ว่ากันไป ซึ่งถ้าใครตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ จะพบว่าลูกเล่นพวกนี้มันของเก่าชัด ๆ เพราะอย่าง Bravia ในอเมริกาและยุโรปก็มีฟังก์ชั่นพวกนี้เล่นกันสนุกสนานแล้ว หรืออย่างในทีวีรุ่นสูง ๆ หน่อยของปีที่แล้วก็มีใส่มา แต่ไม่ได้เน้นอะไรมากมาย ว่าแล้วเรามาดูของ Sony กันว่ารุ่นนี้มันมีอะไรมาให้บ้าง

สำหรับการดูวิดีโอออนไลน์ ก็มี Youtube ยืนพื้นมาให้เลย 1 ช่อง ซึ่งมีความสามารถไม่ต่างจาก Youtube บน platform อื่น ๆ เท่าไร คือ ค้นหาวิดีโอได้ ดูวิดีโอเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ หรือเราจะ sign in บัญชีของเราเพื่อที่จะได้ดูวิดีโอใน Playlist หรือ Favorite ของเราได้ การโหลดวิดีโอ ทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว แต่เท่าดู ๆ หลายครั้งพบว่าความละเอียดของวิดีโอไม่น่าจะเป็นแบบ HD

สำหรับช่องอื่น ๆ นั้นก็มีช่องจากเว็บไซต์วิดีโอ และช่องของเมืองนอกต่าง ๆ มาให้ เช่น Billabong, Dailymotion, eHow, WIRED มาให้เลือกดูกัน ส่วนมากก็จะเป็นความละเอียดแบบ SD มีบางช่องเป็น HD ก็มี แต่โหลดนานมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีช่อง podcast และสถานีวิทยุออนไลน์ให้เลือกฟังได้อีกด้วย และหากช่องพื้นฐานที่มีให้มันไม่จุใจ ก็สามารถเอารหัสทีวีไปลงทะเบียนในเว็บของ Sony เพื่อดู Premium Content ได้ แต่ว่าเมืองไทยเรายังไม่เปิดให้บริการ (อ้าว เฮ้ย !)

ส่วนช่องของไทยเรา ทาง Sony ไปร่วมมือกับ BBTV (ช่อง 7 สีของเรานั้นเอง) M Thai และ Nation ให้มาร่วมลงรายการต่าง ๆ บน Bravia Internet TV เท่าที่ผมลองดู ของ BBTV นี้เหมือนยังไม่พร้อม ตอนนี้ที่ดูได้มีแค่บันทึกการประกวด Miss Thailand Universe 2011 เท่านั้น จริง ๆ ก่อนหน้านี้จะมีรายการข่าวการเมืองด้วย แต่คงเอาออกไปแล้ว ส่วนของ Nation นี้ทำการบ้านมาดีกว่า จัดเต็มทุกรายการ แถมมีอัพเดทเรื่อย ๆ ความละเอียดวิดีโอของทั้งคู่เป็นความละเอียดแบบ SD แต่เรื่องคุณภาพทาง Nation ดูจะดีกว่าทาง BBTV ด้วย ส่วนช่องของทาง M Thai ยังไม่มา

โดยรวมเรื่องการดูวิดีโอแบบออนไลน์ ก็ยังไม่มีอะไรเด่น ๆ เลย นอกจาก Youtube เพียงอย่างเดียว แต่ผมเชื่อว่าเพียงพอต่อการให้แม่บ้าน หรือผบ.ที่บ้าน นั่งค้นละครหลังข่าวย้อนหลังมาดูได้อย่างง่าย ๆ

ต่อมาเรื่อง widget ซึ่งทาง Sony เรียกว่า Bravia Internet Widget มันคือโปรแกรมตัวเล็ก ๆ แสดงอยู่ข้าง ๆ จอทีวี ทำได้หลายอย่าง เช่น ดูผลบอล ดูพยากรณ์อากาศ ดูอัพเดท Facebook Twitter ฯลฯ โดยความพิเศษของ widget ของ Sony คือ ตัว widget มันจะเก็บอยู่ที่เซิฟเวอร์ ของ Sony อีกที เพราะฉะนั้นเวลาเรากดส่งข้อมูลอะไร ก็จะผ่านไปที่เซิฟเวอร์ของ Sony ก่อน ตอนนี้จะมีอยู่ 2 ตัวให้เล่นกันคือ Twitter และ Facebook

Twitter ก็มีความสามารถเหมือนกับเราเล่นทวีตผ่านเว็บ Twitter ครับ เวลาจะใช้งานต้อง sign in ผ่านตัว widget

Facebook เองดูจะมีความสามารถไม่เยอะมากนัก เราสามารถอัพเดทสถานะ คอมเมนท์ และกด Like ให้กับโพสเพื่อน ๆ เราได้ การ sign in ของ Facebook จะใช้การ single sign in ผ่านเว็บบราวเซอร์แทน ไม่เหมือนทวีตเตอร์ครับ

นอกจากนี้เรายังสามารถปรับแต่ง widget ได้นิดหน่อย เช่น ขนาด และลำดับของมันครับ

โดยรวม ตอนนี้ widget ถือว่าน้อยไปมาก ๆ สู้ชาวบ้านเขาไม่ได้ แต่ก็เห็นในประเทศอื่น ๆ ก็มี Widget ให้ใช้หลายตัวเหมือนกัน เช่น Ebay, Flickr, Yahoo หรือแม้กระทั่งเกม Sudoku

เรื่อง App ทีวีตัวนี้ก็มี App ใส่มาให้อยู่พอประมาณ แต่ที่แตกต่างจากของทีวีเจ้าอื่นคือ เราจะโหลด App เพิ่มเองไม่ได้ App ใหม่ ๆ จะมาพร้อมกับเฟิร์มแวร์ของทีวีครับ ซึ่ง App ที่ให้มามีดังนี้

Video Search เราสามารถที่จะค้นหาข้อมูลรายละเอียดของวิดีโอต่าง ๆ ได้ และเมื่อเราหาเสร็จแล้ว เราสามารถที่จะสั่งให้ App ค้นหาวิดีโอจากช่องต่าง ๆ Internet TV ได้

Music Search จะคล้าย ๆ กับตัว Video Search แต่เปลี่ยนเป็นการค้นหาเพลงแทน แต่ที่พิเศษกว่าคือเราสามารถใช้ TrackID ค้นหาชื่อเพลงที่กำลังเล่นอยู่ในทีวีได้ ซึ่งหลักการการทำงานยังเหมือนเดิมกับเวอร์ชั่นบนมือถือ Sony Ericsson คือ มันจะฟังเพลงประมาณ 20 วินาที แล้วมันจะส่งข้อมูลเพลงที่ฟังไปค้นหารายละเอียดของเพลงให้ ซึ่ง Sony ใช้ฐานข้อมูลของ gracenote ซึ่งมีความเที่ยงตรงของข้อมูลสูง

เว็บบราวเซอร์ ทำออกมาโอเค ความเร็วพอควร ไม่โหลดช้า แต่ก็ไม่ได้เร็วเท่าคอมพิวเตอร์ เวลาเลื่อนหน้า ทีวีจะเรนเดอร์หน้าเฉพาะส่วนที่เรากำลังดูเสมอ ถ้าเลื่อนไปส่วนอื่น ทีวีจะเรนเดอร์หน้าส่วนที่เราดูใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของหน่วยความจำที่ค่อนข้างจำกัด รองรับการเปิดหลายหน้าต่าง และ Javascript ส่วน Adobe Flash นั้นเสียใจด้วย เพราะไม่รองรับ

ส่วน Skype เนื่องจากมันจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมเป็นกล้องพร้อมไมค์ ซึ่งผมไม่ได้ซื้อ เพราะฉะนั้นขออนุญาตข้ามครับ

ต่อมาเป็นเรื่องของการป้อนข้อมูล ทาง Sony เตรียมคีย์บอร์ดไว้ให้เราหลายภาษาด้วยกันตามภาษาของทีวีที่ได้เลือกไว้ ในกรณีที่เลือกภาษาไทย เราจะพิมพ์ได้แค่ภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียว โดยการกดก็กดเหมือนเรากดตัวอักษรบนโทรศัพท์มือถือ แต่ช้ากว่าเพราะไม่มีระบบ dictionary มาช่วย กว่าจะพิมพ์ค้นหา อาจจะพาลเบื่อ ปารีโมททิ้งซะก่อน ซึ่ง Sony เองก็รู้ดี เลยเพิ่มวิธีการป้อนข้อมูลมาสองแบบ

แบบแรกคือผ่านโปรแกรม Media Remote ที่เมื่อก่อนไว้ใช้ควบคุมเครื่องเล่น BD ของ Sony มีให้โหลดทั้งบน Apple App Store และ Android Market ซึ่งถ้าใช้วิธีนี้ เราจะสามารถพิมพ์ หรือค้นหาข้อมูลเป็นภาษาอะไรก็ได้ ถึงแม้ทีวีมันจะแสดงผลตัวอักษรไม่ได้ก็ตาม ตราบใดที่เรามีคีย์บอร์ดภาษานั้น ๆ ในโทรศัพท์ของเรา อีกวิธีคือใช้โปรแกรม Remote Keyboard บนแล็ปท็อป VAIO ของ Sony เอง ซึ่งสามารถโหลดผ่านโปรแกรม VAIO Update ได้ สำหรับการใช้งานโปรแกรม Media Remote นั้นทำได้หลายอย่าง แต่ผมจะขอยกยอดไปเขียนเป็นอีกโพสนึงละกัน เขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามไปอ่านกันได้เลย

สำหรับปัญหาที่ผมเจอจากการใช้งานมีอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือเรื่องของภาษา ถ้าหากเราอยากให้ตัว Internet TV สามารถแสดงผลภาษาไทยหรือภาษาอื่น ๆ จะต้องทำการเลือกภาษาของทีวีให้เป็นภาษานั้น ๆ และเลือกของการ log in บริการต่าง ๆ หากรหัสผ่านเราใส่เครื่องหมายเอาไว้ เช่น @ จะ log in ไม่เข้าครับ ต้องแก้รหัสผ่านก่อนจึงจะ log in ได้ ซึ่งผมถือว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากครับ

Conclusion

เท่าที่ใช้งาน EX720 มาประมาณ 2 เดือน ผมประทับใจในคุณภาพของทีวีตัวนี้มาก ทั้งดีไซน์ของตัวโทรทัศน์ คุณภาพของภาพ เสียง และการแสดงผลแบบ 3D ตามแบบฉบับของ Sony เขา แต่ในส่วนของ Internet TV นั้น ทำออกมาดี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าอื่น ๆ ในตลาดแล้ว ถือว่าเป็นรองอย่างมาก ทั้งในเรื่องฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ให้มาน้อยมาก (เจ้าอื่นมี app เกมให้โหลดเล่นได้ด้วย) และออกมาช้ามาก ๆ (ผมต้องอัพเฟิร์มแวร์ไปประมาณ 3 เวอร์ชั่น เพื่อที่จะให้ได้ฟีเจอร์ Internet TV ทุกฟีเจอร์ตามที่โฆษณาเอาไว้) และที่สำคัญตัวเนื้อหาตอนนี้ยังไม่โดนเท่าที่ควรสำหรับในบ้านเรา ในต่างประเทศนั้นมีช่องที่หน้าสนใจหลายช่องมาก เช่น Sony Entertainment Television, BBC iPlayer และตัวทีวียังสามารถเข้าใช้บริการเช่าวิดีโอต่าง ๆ และ Qriocity ของ Sony ได้

สำหรับคนที่กำลังดูรุ่น EX720 เทียบกับ NX720 ซึ่งเป็นซีรีย์ถัดไปอยู่ สิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มขึ้นจากรุ่น EX720 คือ Monolithic Design ซึ่งตัวทีวีด้านหน้าจะติดกระจก Gorilla Glass ทนต่อรอยขีดข่วนมาให้ มี WLAN ในตัว ฐานวางทีวีซึ่งเป็นลำโพง Soundbar และ Dynamic Edge LED ซึ่งสามารถปรับหลอดไฟ back lit ได้อย่างอิสระ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ใช้สิ่งเหล่านี้ EX720 ก็น่าจะเหมาะสมกับคุณและประหยัดมากกว่า

สรุป หากคุณกำลังมองหาทีวีที่สามารถแสดงผลแบบ 3D คุณภาพดี ที่ราคาไม่แพงมากนัก ไม่เน้นลูกเล่นในส่วนของ Internet TV เจ้า Sony Bravia EX720 ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีครับ

More info

Sony Asia