ในช่วง 2 – 3 ปีให้หลังมานี้ มาตรฐาน USB 3.0 ที่เริ่มต้นมาโดยยังไม่ค่อยมีอุปกรณ์เสริมที่จะนำมาใช้งาน ก็มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานมากขึ้น รวมทั้งแฟลชไดร์ฟที่เราใช้พกข้อมูลไปไหนมาไหนด้วย แต่ก็ยังมีเแฟลชไดร์ฟเพียงไม่กี่ตัวที่ทำความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลเร็วพอที่จะได้ประโยชน์จาก USB 3.0 สักที
วันนี้ RE.V-> เลยขอนำแฟลชไดร์ฟจาก SanDisk รุ่น Extreme USB 3.0 ที่ทำความเร็วได้ในระดับ 100 MB/s มารีวิวให้อ่านกันครับ
Package
เมื่อก่อนสินค้ากลุ่ม Extreme ของ SanDisk จะใส่กล่องกระดาษมาให้ แต่ตอนนี้หันมาใช้แพ็คกระดาษเหมือนสินค้ารุ่นทั่วไปแล้ว บนแพ็คระบุความจุ 32 GB ความเร็วการอ่านที่ 245 MB/s และการเขียนที่ 100 MB/s
ข้างหลังมีบรรยายสรรพคุณต่าง ๆ ว่ารองรับ OS อะไรบ้าง และพวกหมายเหตุต่าง ๆ
ข้างในแผงจะมีแฟลชไดร์ฟ 1 ตัว และคูปองสำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมกู้ข้อมูลในแฟลชไดร์ฟ RescuePro Deluxe ฟรี 1 ปี
Product
ตัวถังของแฟลชไดร์ฟทำมาจากพลาสติกผิวด้าน และตบแต่งบางจุดด้วยพลาสติกผิวมัน มีการทำช่องสำหรับรอยสายมาให้
ตัวแฟลชไดร์ฟจัดว่าไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ความยาวค่อนข้างยาวกว่าแฟลชไดร์ฟทั่ว ๆ ไปในยุคปัจจุบันอยู่บ้าง
เวลาจะใช้งานก็สไลด์เอาพอร์ต USB ที่เก็บอยู่ข้างในออกมา ตัวกลไกประกอบมาแน่นหนา ดูแข็งแรงดี
Set up
การใช้งานนั้นก็เหมือนแฟลชไดร์ฟทั่ว ๆ ไปเลย แค่เสียบกับคอมพิวเตอร์ ไฟสถานะสีน้ำเงินบนตัวแฟลชไดร์ฟจะกระพริบ 1 ครั้ง เพื่อบอกว่าพร้อมใช้งานแล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างจากแฟลชไดร์ฟทั่ว ๆ ไปคือ Windows จะจัดให้เจ้า Extreme USB 3.0 นี้เป็นเหมือนฮาร์ดไดร์ฟ ไม่ได้เป็น Removable media เหมือนที่แฟลชไดร์ฟทั่วไปเขาเป็นกัน
สำหรับ format ของแฟลชไดร์ฟที่มาจากโรงงาน จะเป็นแบบ FAT32 เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้งบน Windows และระบบปฏิบัติการตัวอื่น ๆ ได้ แต่ก็จะไม่สามารถใส่ไฟล์ที่ขนาดใหญ่เกิน 4 GB ได้ ถ้าใครจะใส่ไฟล์ใหญ่กว่านั้นก็ต้อง format ใหม่ให้อยู่ในรูปแบบอื่นครับ
ส่วนใครที่ต้องการเข้ารหัสข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟ SanDisk ก็ได้ใส่โปรแกรม SanDiskSecureAccess มาให้ในแฟลชไดร์ฟด้วย พอดีผมไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารหัส ก็เลยไม่ได้ใช้งานโปรแกรมตัวนี้ครับ
Performance
จากการใช้งาน เจ้า SanDisk Extreme USB 3.0 มาได้สักระยะ รู้สึกได้เลยว่าการถ่ายโอนไฟล์นั้นรวดเร็วขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ที่ต้องนั่งรอแล้วรออีกเพื่อรอการโอนถ่ายข้อมูลให้เสร็จ
เพื่อความมั่นใจ เลยเอาโปรแกรม CystalDiskMark มาลองวัดดูบน VAIO Duo 11 พบว่าความเร็วการอ่านเขียนที่ได้นั้นใกล้เคียงกับที่เคลมไว้บนแพ็คกระดาษ แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้นำ SanDisk Extreme ไปลองต่อกับพอร์ต USB 3.0 บนจอ Dell UltraSharp U2413 ดูด้วย พบว่าความเร็วในการอ่านลดลงไปเหลือประมาณ 140 MB/s ซึ่งก็ถือว่ายังใช้งานได้อยู่
สำหรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0 นั้น ถึงแม้ว่าจะทำให้เจ้า SanDisk Extreme ทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ความเร็วอ่านเขียนที่ได้อยู่ในช่วงมากกว่า 30 MB/s ขึ้นไป ก็ยังเร็วกว่าแฟลชไดร์ฟทั่ว ๆ ไปอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ผมพบปัญหานิดหน่อยตอนใช้งานแฟลชไดร์ฟตัวนี้กับพอร์ต USB 3.0 แบบปกติบน VAIO และพอร์ต USB 2.0 บนคอมตั้งโต๊ะคือ คอมพิวเตอร์มองไม่เห็นแฟลชไดร์ฟในการเสียบครั้งแรก ต้องถอดออกแล้วเสียบใหม่ถึงจะใช้งานได้ ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายไฟของคอมพิวเตอร์ให้กับแฟลชไดร์ฟตัวนี้ครับ
Conclusion
ต้องยอมรับเลยว่าเจ้า SanDisk Extreme USB 3.0 ได้สร้างนิสัยเสียใหม่ ๆ ให้ผมเหมือนกับตอนสมัยเปลี่ยนมาใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไดร์ฟแบบ SSD ใหม่ ๆ อีกแล้ว คือความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลมันเร็วขึ้นมากจริง ๆ จนสัมผัสได้
ถึงแม้เมื่อเทียบราคาแล้ว อาจจะรู้สึกว่าราคานี้มันแพงไป เพิ่มเงินอีกประมาณนึงก็ได้ฮาร์ดไดร์ฟภายนอกที่มีความจุมากกว่าหลายเท่าแล้ว (เทียบราคารุ่น 32 GB) แต่ถ้าเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องนำข้อมูลใหญ่ขนาดนั้นพกติดตัว ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลและขนาดที่เล็ก พกพาสะดวกของ SanDisk Extreme ก็น่าจะได้เปรียบกว่าฮาร์ดไดร์ฟอยู่หลายเท่าตัวเช่นกัน
สรุป ใครที่ต้องพกข้อมูลจำนวนไม่เยอะมากนัก แต่ต้องการความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง ๆ พกพาได้สะดวก และอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่มีพอร์ต USB 3.0 ติดมาอยู่แล้ว ก็ลองมอง SanDisk Extreme USB 3.0 ไว้เป็นตัวเลือกสักหน่อยนะครับ
Like
- วัสดุและงานประกอบดูดี
- ไม่มีฝา
- กลไกเลื่อนพอร์ตแข็งแรง
- ความเร็วในอ่านเขียนเร็วจริงแบบสัมผัสได้
Don’t like
- กินไฟเยอะ แฟลชไดร์ฟอาจไม่ทำงาน ถ้าเสียบพอร์ต USB ที่จ่ายไฟน้อย
- ราคายังแพงอยู่เมื่อเทียบกับฮาร์ดไดร์ฟภายนอก
ถ้าใช้ไปนานๆ ความเร็วของแฟลชไดร์ฟจะตกไหมครับ
ตั้งแต่รีวิวมา ผมยังไม่รู้สึกว่าความเร็วตกลงไปนะครับ แต่ถ้าใช้ไปนานมาก ๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ
โอกาสน้อยครับ
ขอชี้แจงรายละเอียดหน่อยนะครับแอด ตรงที่ fat32 ไม่สามารถใส่ไฟล์ที่ขนาดใหญ่เกิน 4 GB ได้ คือ หากขนาดไฟล์ที่จะถ่ายโอนเกิน 4gb จะไม่สามารถถ่ายโอนได้ครับ ต้องแบ่งไฟล์เป็น part ละไม่เกิน 4gb แล้วโอนย้ายเข้าไปทีละ part ครับ