ลองฟัง หูฟังค่าย FitEar ในงาน Keita Suyama Meet & Greet

FitEar Keita Suyama Meet & Greet 2017

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทาง Jaben Thailand ได้เชิญคุณ Keita Suyama เจ้าของแบรนด์หูฟัง CIEM เบอร์ 1 จากญี่ปุ่น FitEar มาพบปะกับลูกค้าของ FitEar และผู้ที่สนใจในหูฟังเจ้านี้ พร้อมกับนำหูฟังรุ่นใหม่ ๆ ของ FitEar มาให้ได้ทดลองฟังกัน

ทีมงาน RE.V-> ก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานนี้ด้วย เลยมาเล่าประสบการณ์ของการทดลองฟังหูฟังของ FitEar รุ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจในงานครับ

FitEar Universal & FitEar Custom

FitEar Universal

หูฟัง 2 รุ่นนี้เป็นหูฟังที่ทำมาจับตลาดผู้เริ่มต้น โดยวางตำแหน่งอยู่ระหว่างหูฟังรุ่น F111 ที่เป็นหูฟังไดร์เวอร์ BA 1 ตัว และ FitEar FitEar สเปกภายในของทั้ง 2 รุ่นจะเหมือนกัน ใช้สายรุ่น 005 เหมือนกัน ความต่างกันมีเพียงรุ่น Universal จะเป็น IEM แบบใส่กับจุกยาง และรุ่น Custom ก็คือ CIEM ที่ต้องพิมพ์หูตามชื่อ

FitEar Universal

ผมเริ่มลองรุ่น Universal ก่อน ก็พบว่ามันมีเสียงโดยรวมไปทางย่านแหลม เสียงกลางออกแหลมโปร่ง เสียงแหลมมีความคม ลากยาวได้ไกล น้ำเสียงฟังเป็นธรรมชาติ แต่เสียงเบสนี้มีน้อย จนถึงน้อยมากจนผมแปลกใจ ซึ่งผมเข้าใจว่าอาจเป็นหูฟังมันหลวมเกินไป

FitEar Custom

ส่วนตัว Custom นั้นก็มีลักษณะเสียงที่คล้าย ๆ กัน แต่ผมรู้สึกได้ถึงปริมาณเบสที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งผมเข้าใจว่า อาจเป็นเพราะตัวหูฟังรู้สึกว่าใส่ได้แน่นพอดี เสียงเบสนั้นมีความคมชัด ลงได้ลึก และไม่บวมเลย ส่วนเสียงแหลมของ Custom จะฟังแล้วดูพอดีกว่า Universal ซึ่งคุณ Suyama เองได้อธิบายว่าตัว Universal เข้าออกแบบให้รูท่อนำเสียงเป็นเหมือนลำโพงฮอร์น ทำให้มีเสียงแหลมมากขึ้น เพื่อไปชดเชยกับจุกยางที่มักจะซับเสียงสูงเอาไว้ เพราะฉะนั้นเสียงของ Custom ที่เป็นแบบพิมพ์หู ก็ควรจะมีเสียงคล้ายกับตัว Universal

หลังจากการลองหูฟัง 2 รุ่นนี้ ผมได้ถามคุณ Suyama ว่า FitEar Custom นี่มีความสามารถพอใช้งานแบบมืออาชีพได้ไหม ซึ่งแกได้ตอบมาว่า ถ้าเอาไปใช้ทำดนตรี มิกซ์เสียงน่ะโอเค แต่ถ้าเอาไปใช้เป็นมอนิเตอร์บนเวที แกบอกว่าหูฟังรุ่นอื่น เช่น MH334 นั้นเหมาะสมกับการใช้งานกว่าครับ

Air 2

FitEar Air 2

FitEar Air 2 เป็นหูฟังที่ใช้ตัวขับแบบ hybrid ประกอบด้วยตัวขับ balanced armature และตัวขับไดนามิคขนาด 9 มม. จาก Fostex

ตอนแรกผมคิดว่าเสียงเหมือนหูฟังตัวขับ hybrid ที่เคยฟังมา แต่เข้าจริงแล้ว เสียงของ Air 2 นั้นมีลักษณะความคมชัดในแต่ละย่านเหมือนหูฟังตัวขับ BA แต่ก็มีกลิ่นอายของลักษณะตัวขับไดนามิคในย่านเสียงกลางและต่ำติดมาบางเท่านั้น จากการลองฟังเสียง ผมรู้สึกว่า Air 2 มีแนวเสียงคล้าย ๆ กับ FitEar Custom ที่ข้างบน เพียงแต่ย่านเสียงแหลมจะมีน้ำเสียงคล้ายเครื่องเคาะโลหะ ปลายเสียงจะมีความคมมากกว่า

นอกจากนี้เสียงแต่ละย่านก็ให้ความรู้สึกที่ถูกแยกออกมาจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากหูฟัง hybrid ของ Sony ที่ผมใช้งาน ซึ่งเสียงจะผสมเรียบเนียนกันไป ตรงนี้ก็คงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ

ต่อไป เราไปดูหูฟังรุ่นที่เหลือกันครับ

3 thoughts on “ลองฟัง หูฟังค่าย FitEar ในงาน Keita Suyama Meet & Greet

  1. Pingback: สัมภาษณ์ คุณ Suyama Keita เจ้าของ FitEar ตอนที่ 1 | RE.V –>

    1. AT1987 Post author

      ผมขีดฆ่า Aya ในบทความแล้วนะครับ ต้องขอบคุณที่เข้ามาคอมเมนต์แก้ไขให้นะครับ

      Reply

Leave a Reply to AT1987Cancel reply