เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทาง Western Digital ได้จัดงานเปิดตัวฮาร์ดไดร์ฟ WD Red รุ่นอัพเดทใหม่ พร้อมทั้งเปิดตัวฮาร์ดไดร์ฟ WD Red Pro เพิ่มเติมเข้ามาในกลุ่มฮาร์ดไดร์ฟสำหรับการใช้งานกับ NAS วันนี้เราจะมาทำความรู้จักฮาร์ดไดร์ฟทั้ง 2 รุ่นนี้กันครับ

สำหรับ WD Red นั่นเป็นฮาร์ดไดร์ฟที่ทาง Western Digital ได้ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับ Network Attached Storage สำหรับผู้ใช้งานตามบ้านโดยเฉพาะ จุดเด่นของ WD Red คือการถูกออกแบบให้รองรับการทำงานได้ 24/7 ในขณะที่ฮาร์ดไดร์ฟรุ่นอื่น ๆ เช่น WD Blue, WD Green และ WD Black นั้นถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานเพียง 8/5 เท่านั้น

ในปีนี้ทาง WD เองได้มีการปรับปรุง WD Red เดิมด้วยเฟิร์มแวร์ NASware 3.0 รุ่นใหม่ ที่ช่วยให้ WD Red รองรับการใช้งานใน NAS ได้พร้อมกันถึง 8 ลูก จากรุ่นที่แล้วที่รองรับเพียง 4 ลูก พร้อมทั้งยังได้เพิ่มรุ่นความจุ 5 TB และ 6 TB ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี StableTrac ที่ล็อกแกนของมอเตอร์เพื่อป้องกันไม่ให้จานแม่เหล็กภายในแกว่ง

นอกจากการปรับปรุง WD Red แล้ว เพื่อเป็นการรุกในกลุ่มผู้ใช้ NAS ในกลุ่ม SMB ทาง WD ยังได้ออกฮาร์ดไดร์ฟ WD Red Pro สำหรับผู้ใช้กลุ่มนี้ ซึ่งสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ รองรับการใช้งานใน NAS ได้พร้อมกันสูงถึง 16 ลุก ความเร็วฮาร์ดไดร์ฟที่ 7,200 รอบ ระบบการสั่นสะเทือนที่ดีกว่า และการรับประกันเพิ่มขึ้นจาก 3 ปีเป็น 5 ปี

เพื่อเป็นการตอกย่ำความเข้ากันได้ระหว่าง WD Red และ NAS ต่าง ๆ ทาง WD จึงได้เชิญพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต NAS มาโชว์สินค้าตัวเองในงานนี้ด้วย เนื่องจากผมเห็นว่า NAS หลาย ๆ ยี่ห้อสมัยนี้แทบจะมีความสามารถและการใช้งานที่ใกล้เคียงกันมากแล้ว เลยถามคำถามง่าย ๆ ไปว่า NAS ของพี่ดีกว่าของโต๊ะข้าง ๆ อย่างไรบ้างครับ

เริ่มจากค่ายน้องใหม่แต่หน้าเก่าอย่าง ASUSTOR ซึ่งเป็นบ.ในเครือ ASUS ที่พวกเรารู้จักกัน NAS ของทาง ASUS เลือกใช้ซีพียูเป็น Intel Atom แบบ dual-core ความสามารถที่ผมว่าน่าสนใจคือสามารถเอาฮาร์ดไดร์ฟภายในที่มีข้อมูลอยู่แล้ว ใส่ใน NAS แล้วใช้งานได้เลยโดยที่ไม่ต้องฟอร์แมตใหม่ก่อน

ต่อด้วย QNAP ค่าย NAS ชื่อดังจากไต้หวัน ที่ชูจุดเด่นว่าใช้งานซีพียู Intel Celeron แบบ dual-core เป็นเจ้าแรก สามารถลง OS ตัวอื่นคู่กับ OS ของ NAS เพื่อใช้งานเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดย่อม ๆ ได้ พร้อมทั้งสามารถใส่ RAM DDR3-1333 ได้ 2 สล็อต รวมความจุที่รองรับถึง 8 GB

สุดท้ายเป็นค่าย Synology ซึ่งมีจุดเด่นที่ OS DISKSTATION MANAGER 5.0 ที่มีมาให้ใน NAS ครบทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ โดยสามารถใช้งานผ่าน Web browser ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งสามารถเพิ่มความสามารถได้ด้วย Package Center ที่ช่วยให้เราสามารถเลือกลงโปรแกรมเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย

เนื่องจากเจ้า WD Red Pro นั้นค่อนข้างจับกลุ่มเข้ามาใกล้กับ WD Re ที่เป็นฮาร์ดไดร์ฟในกลุ่มตลาดบนของ WD ผมเลยได้สอบถามกับทาง WD ถึงข้อแตกต่างระหว่างสองรุ่นนี้ ซึ่งได้ใจความว่าความแตกต่างของฮาร์ดไดร์ฟทั้งสองรุ่นนี้อยู่ที่การออกแบบที่ของ WD Re ทำมาสำหรับการใช้กับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูล และมีค่า MTBF หรือจำนวนชม.ที่ฮาร์ดไดร์ฟสามารถทำงานได้ก่อนที่จะเสีย อยู่ที่ 1.4 ล้านชม.

ในขณะที่ WD Red และ Red Pro จะมีค่า MTBF อยู่ประมาณ 1 ล้านชม. ส่วน WD Purple ที่ออกแบบมาสำหรับงานบันทึกกล้องวงจรปิดนั้นจะมี MTBF อยู่ที่ 1 ล้านชม. ส่วน WD Blue, Green และ Black จะอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 แสนชม.ครับ

สำหรับผู้ที่สนใจ เห็นว่าทาง Western Digital ได้เริ่มจำหน่าย WD Red รุ่นใหม่และ WD Red Pro แล้ว ก็สามารถลองเดินดูตามร้านขาประจำของท่านกันได้เลยครับ

More info

Western Digital