สวัสดีครับ หลังจากที่ผมได้เคยรีวิวฮาร์ดไดร์ฟภายนอกจาก WD มาแล้วตัวนึง วันนี้ผมก็มาพร้อมกับฮาร์ดไดร์ฟภายนอกรุ่นใหญ่อีกรุ่นจาก WD นะครับ ซึ่งก็คือรุ่น My Book Studio Edition II ครับ ว่าแล้วเรามาแกะกล่องดูกันดีกว่าครับ
สำหรับฮาร์ดไดร์ฟรุ่นนี้นะครับ ก็เป็นฮาร์ดไดร์ฟภายนอกขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งแตกต่างจากฮาร์ดไดร์ฟ WD My Passport ที่เราเคยรีวิวกันคราวที่แล้วซึ่งเป็นฮาร์ดไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้วครับ
สำหรับ My Book รุ่นนี้มีจุดเด่นแตกต่างจากฮาร์ดไดร์ฟภายนอกตัวอื่น คือเป็นระบบไดร์ฟคู่ซึ่งในตัวจะมีฮาร์ดไดร์ฟสองตัวต่อกันแบบ RAID ซึ่งตัว RAID สามารถจะต่อแบบ 0 (striped) หรือ 1 (mirrored) ได้ครับ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 4 แบบ ได้แก่ USB 2.0, eSATA, Firewire 400 และ Firewire 800 ซึ่งครอบคลุมการใช้งานทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ Windows และ Mac OS X ครับ ฟังก์ชั่นสำคัญอีกอย่างคือเราสามารถเปลี่ยนไดร์ฟข้างในใหม่เองได้เมื่อไดร์ฟมีปัญหาครับ
What’s RAID ?
RAID หรือที่ย่อมาจาก Redundant Array of Independent Disks นั้นเป็นการนำฮาร์ดไดร์ฟหลายๆ ตัวมาต่อกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือเพิ่มความเสถียรของข้อมูลครับ สำหรับ RAID นั้นก็แบ่งออกได้หลายแบบ สำหรับในไดร์ฟ My Book รองรับสองแบบคือ
- RAID 0 (striped drive) คือการนำไดร์ฟสองตัวมาต่อกันแล้วเมื่อเวลามีการเขียนข้อมูล ฮาร์ดไดร์ฟสองตัวจะแบ่งข้อมูลที่ได้มาเขียนลงบนฮาร์ดไดร์ฟของตนเอง ทำให้การเขียนและอ่านข้อมูลเร็วขึ้น ข้อดีคือประสิทธิภาพดีขึ้น และไม่มีการเสียพื้นที่ฮาร์ดไดร์ฟไป ข้อเสียคือหากไดร์ฟใดไดร์ฟหนึ่งเสีย ข้อมูลจะเสียหายทั้งหมดครับ
- RAID 1 (mirrored drive) จะคล้ายกันกับแบบแรกแต่เวลาเขียนข้อมูล ไดร์ฟทั้งสองจะเขียนข้อมูลชุดเดียวกันลงไปในไดร์ฟของตนเอง เท่ากับว่ามีการแบคอัพข้อมูลให้โดยอัตโนมัตินั้นเองครับ ข้อดีคือไดร์ฟใดไดร์ฟหนึ่งเสีย ก็ยังมีแบคอัพอยู่ ส่วนข้อเสียคือพื้นที่ฮาร์ดไดร์ฟก็จะเหลือเพียงไดร์ฟเดียวครับ
Package
ในกล่องจะประกอบไปด้วยเอกสารการใช้งานต่างๆ แผ่นไดร์เวอร์
ส่วนตัวฮาร์ดไดร์ฟบรรจุในแพคพลาสติกกันกระแทกอย่างดีครับ
ตัวแปลงไฟฟ้า สาย USB 2.0 (A –mini B), Firewire 6 – 8 pin และ Firewire 8 – 8 pin ครับ ให้มาครบ
ส่วนอันนี้เป็นกระเป๋าได้แถมมาครับ แต่ใส่ฮาร์ดไดร์ฟไม่ได้นะครับ
Product
สำหรับตัวไดร์ฟมีสีเงินตามสไตล์ของ Studio Edition ทำเข้ากับเครื่องแมคเลยทีเดียวครับ
ข้างหลังครับ พอร์ตครบครันทีเดียว และปุ่มเปิดปิดครับ
ไฟบอกสถานะยังคงเป็นสีขาวเหมือนเดิมสำหรับ Studio Edition
เทียบกับ My Book Premium Edition รุ่นเก่าของผมครับ เปลี่ยนเพียงไฟบอกสถานะแค่นั้นเองครับ และปุ่มเปิดปิดครับ ของเก่าปุ่มอยู่ในวงไฟบอกสถานะครับ
ตัวไดร์ฟสามารถเปิดได้เพื่อเปลี่ยนไดร์ฟครับ ข้างในใช้ไดร์ฟ GreenPower Drive ซึ่งประหยัดไฟกว่าไดร์ฟแบบปกติครับ สำหรับไดร์ฟที่เอามาเปลี่ยนได้ต้องใช้ GreeenPower Drive เท่านั้นครับ
Set up
รอบนี้เป็นการติดตั้งสำหรับ Windows นะครับ ส่วน Mac OS X จะคล้ายกับตัว My Passport ที่เคยเขียนครับ และไดร์ฟตัวนี้ฟอร์แมตมาให้ Mac OS X เหมือนเดิมตามแบบฉบับ Studio Edition ครับ
คำเตือน อย่าเสียบไดร์ฟก่อนลงไดร์เวอร์นะครับ
สำหรับการติดตั้งนั้นง่ายมากครับ เพียงเราใส่แผ่นไดร์เวอร์ลงไป ไดร์เวอร์จะถูกติดตั้งลงไปทันทีโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลยครับ สำหรับใครปิด Autorun ไว้คงต้องเปิดก่อนชั่วคราวไม่งั้นก็ต้องมาดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอนไดร์ฟซีดีแทนล่ะครับ พอไดร์เวอร์ลงเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าจอติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ทีมากับไดร์ฟครับ
พอเราติดตั้งเสร็จก็ค่อยเสียบไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าเสียบแบบ USB และ IEEE1394 ก็เสียบได้เลยครับ แต่ eSATA ต้องปิดเครื่องก่อนแล้วค่อยเสียบแล้วเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และเปิดที่ปุ่มฮาร์ดไดร์ฟนะครับ
จากนั้นก็เปิดโปรแกรม WD Drive Manager ตรงมุมขวาล่าง ทำการกำหนด RAID (ผมใช้ RAID 0 ครับ) ให้กับไดร์ฟและฟอร์แมตไดร์ฟ ตัวไดร์ฟก็จะพร้อมใช้งานแล้วครับ
Performance
สำหรับการใช้งานคือไม่วัดอะไรเป็นพิเศษนะครับ เอาจากการใช้งานจริงเลย
สำหรับความเร็วของ Studio Edition II เทียบกับ Premium Edition ต่อผ่านทาง Firewire400 บน Windows XP SP2 นั้นตัว Studio นั้นเร็วกว่าครับ จะไม่ค่อยเห็นกับไฟล์เล็ก แต่ถ้าเป็นไฟล์ใหญ่ๆ หรือจำนวนมากจะเห็นได้ชัดครับ
แต่ตัว Studio นั้นก็มีข้อเสียบ้างครับคือเวลาตัวไดร์ฟไม่ได้ทำอะไรนานๆ แล้วเรามาเปิดข้อมูลในไดร์ฟ ตัวไดร์ฟจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วินาทีในการเริ่มการทำงานอีกทีนึง ตรงนี้ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะระบบประหยัดพลังงานของตัวไดร์ฟครับ
สำหรับอุณหภูมิก็ไม่ร้อนมากครับ ยิ่งช่วงว่างๆ ไม่ร้อนเลยครับ
Conclusion
สำหรับไดร์ฟตัวนี้ก็คงยังเป็นสินค้าคุณภาพจากทาง WD อีกตัวนึงครับ ถึงแม้จะมีปัญหาจุกจิกบ้างสำหรับไดร์ฟตัวนี้แต่ก็ถือว่าเป็นไดร์ฟที่ดีตัวนึงครับ สำหรับคนที่ต้องการไดร์ฟความจุสูงหรือต้องการไดร์ฟภายนอกที่ทำงานรวดเร็ว Western Digital My Book Studio Edition II ตัวนี้ถือเป็นอีกตัวเลือกเลยครับ
แล้วรุ่นนี้ Western Digital 2TB My Book Studio II 3.5″ External Hard Drive USB2.0/FW800/eSATA/RAID Retail กับรุ่น Western Digital 2TB My Book World II Home Network Storage w/ Remote Access Retail ต่างกันยังงัยค่ะ เพราะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเอาตัวไหนดี
ตัวที่ผมมารีวิวเป็นฮาร์ดดิสก์ที่ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ ตัว World จะเป็น NAS (Network Access Storage) ครับ คือเสียบกับสายแลนในระบบเครือข่าย และมีซอฟต์แวร์เข้ามาดูไฟล์จากที่อื่นได้ครับ
NAS จะได้เปรียบที่ว่าคุณไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ฮาร์ดไดร์ฟตัวนั้นเสียบอยู่เพื่อแชร์ฮาร์ดดิสก์ครับ เอาฮาร์ดดิสก์เสียบสายแลนแล้วคอมในเครือข่ายสามารถใช้ฮาร์ดดิสก์ลูกนี้ได้พร้อมกันครับ
เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ กำลังหาซื้ออยู่พอดี มีประโยชน์มากๆแลยค่ะ ^______^
พอดีผมมีอยู่ตัว หนึงแบบ นี้แต่ไม่มีได้เวอร์ คับ หาไดร์เวอร์ไม่ได้
ที่เว็บยังมีให้โหลดอยู่นะครับ
http://support.wdc.com/product/download.asp?groupid=114&lang=en
Pingback: รีวิว ฮาร์ดไดร์ฟภายนอก Western Digital My Book Duo | RE.V –>