ลองนั่ง uberX บริการคนขับรถยนต์ส่วนตัวราคาประหยัดจาก Uber

uberX_Backseat_BW

หลังจากที่ Uber ผู้ให้บริการจัดหารถยนต์รับจ้างผ่านแอพบนสมาร์ทโฟนได้เข้ามาเปิดตัวในเมืองไทยช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีหลาย ๆ คนรู้สึกว่าค่ารถนั้นค่อนข้างแพงเกินไป

แต่เรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นอดีต เพราะทาง Uber ได้เปิดทดลองตัวรถประเภทใหม่ที่เรียกว่า uberX ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า และเราก็จะมาลองนั่งเจ้า uberX นี้กันครับ

สิ่งที่ uberX แตกต่างจาก UberBlack ที่เปิดตัวก่อนหน้าคือ รถยนต์ที่ใช้จะเป็นรถยนต์นั่งทั่ว ๆ ไป และคนขับจะเป็นบุคคลทั่ว ๆ ไปที่อยากจะหารายได้พิเศษในเวลาว่างจากการขับรถ

สำหรับค่าโดยสารในช่วงทดลองวิ่ง uberX จะเริ่มต้นที่ 25 บาท และนับค่าโดยสารเพิ่มตามเวลา นาทีละ 1 บาท และระยะทาง กม.ละ 4.5 บาท และค่าโดยสารขั้นต่ำที่ต้องจ่ายจะอยู่ที่ 45 บาทครับ

Set up

uber-free-ride

ก่อนที่จะใช้บริการ Uber เราจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ ซึ่งจะต้องเพิ่มข้อมูลบัตรเดบิตหรือเครดิตเพื่อทำการชำระค่าโดยสาร ซึ่งผมใช้บัตรเว็บการ์ดในการสมัคร

สำหรับคนที่กดลิ้งก์ referrer ของผม ตรงรูปเพื่อสมัครบัญชี จะได้รับเดรดิตฟรี 200 บาทสำหรับการใช้บริการ Uber ทั้งแบบ uberX และ UberBlack ครับ

uber-app

พอสมัครเรียบร้อย เราก็ไปโหลดแอพของ Uber จาก Store ต่าง ๆ ตามระบบสมาร์ทโฟนแต่ละตัว ซึ่งมีทั้งระบบ iOS, Android และ Windows Phone จากนั้นก็ล็อกอินด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่สมัครไว้ Uber ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ

Use

uber-pickup-location

ในการเรียกใช้บริการนั่นก็แสนง่ายได้ เพียงเราเปิดแอพ Uber ขึ้นมา ระบบจะทำการค้นหารถของ Uber ในบริเวณที่จะให้รถมารับเราตามประเภทบริการที่เราเลือกไว้ ถ้าแถว ๆ นั้นมีรถ แอพจะบอกระยะเวลาที่รถจะมาถึงจุดรับส่ง ถ้าเราเรียกใช้บริการ

uber-confirmation

เมื่อเรากดเรียกรถมารับ แอพจะทำการยืนยันเรื่องการจ่ายเงิน การใช้รหัสโปรโมชั่น และการประมาณค่าโดยสาร ก่อนที่จะกดให้รถมารับจริง ๆ

uber-fare-estimate

เมื่อเราเลือก FARE ESTIMATE แอพจะถามปลายทางที่เราต้องการจะไป แล้วคำนวณค่าโดยสารมาให้คร่าว ๆ  ถ้าโอเคทุกอย่างแล้ว ก็กดย้อนกลับไปหน้ายืนยันแล้วเลือก REQUEST เพื่อเรียกรถตามประเภทที่เราเลือกไว้ครับ

uber-en-route

เมื่อแอพหารถให้เราได้แล้ว ก็จะแสดงรายละเอียดคนขับ รถที่ใช้ เลขทะเบียนของรถ พร้อมทั้งตำแหน่งของรถและระยะเวลาโดยประมาณที่จะมารับเราครับ

Experience

uber-on-trip

ผมได้ลองใช้บริการ uberX ตรงสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต ซึ่งการเรียกรถก็เป็นไปตามที่เล่าข้างบน ใช้งานง่ายสะดวก แต่เนื่องจากคนที่เคยไปแถวนั้นจะทราบว่า ตรงบริเวณทางลงสถานีเขาจะกั้นถนน 1 เลนเพื่อให้รถเมล์ได้วิ่งเขามา

ซึ่งหากจะเรียกรถแท็กซี่จะต้องเดินย้อนไปทางสะพานควาย หรือไม่ก็เดินเลยจากตรงนั้นมาทางวิภาวดี ก็เลยมีปัญหาเรื่องการหาตำแหน่งรถที่จอดอยู่ แต่คนขับก็มีการโทรมาแจ้งตำแหน่งให้ผมเป็นระยะ ๆ และผมเองก็มีโทรไปถามตำแหน่งของรถเหมือนกัน เสียเวลาเดินหาจุดที่รถจอดไปพอสมควร

หลังจากเจอรถที่มารับซึ่งเป็นรถตู้ Toyota Commuter ภายในตกแต่งเบาะหนังอย่างดีแล้ว ผมได้แจ้งจุดหมายปลายทางอีกที และก็ได้เวลาเริ่มเดินทางครับ

Uber uberX tryout

ในการเดินทางนั้น คนขับรถขับรถด้วยความเร็วมาตรฐาน ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป เสียงในรถมีเพียงเสียงจากวิทยุที่คนขับเปิดไว้และเสียงจากแอพนำทางบน iPad ที่ติดอยู่กับกระจกหน้ารถเท่านั้น ระหว่างทางผมก็คอยบอกทางเป็นระยะ ๆ เผื่อระบบนำทางพาหลง ซึ่งเอาเข้าจริงก็ทำงานได้แม่นยำอยู่

เนื่องจาก uberX คันที่ผมนั่งเป็นรถตู้ ก็เลยลองถามดูเรื่องว่าสามารถรับคนมากกว่า 4 คนขึ้นไปได้หรือเปล่า ซึ่งคนขับได้ตอบผมมาว่า เนื่องจากตอนเราเรียกรถ เราจะไม่สามารถรู้ประเภทรถจนกว่าจะกดยืนยันแล้ว และตอนนี้มีรถตู้ในระบบรวมคันที่ผมนั่งเพียง 3 คัน

เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเรียก uberX ที่เป็นรถตู้นั้นค่อนข้างยาก แต่ถ้าต้องการเหมารถให้ไปต่างจังหวัด เช่น พัทยา เขาก็รับงาน แต่คิดค่าโดยสารด้วย Uber เหมือนเราเรียกรถปกติ

uber-reciept

พอถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่เปิดประตูแล้วลงจากรถ ก็เป็นอันจบการใช้บริการ uberX หลังจากนั้นสักพัก แอพจะแจ้งค่าโดยสารและขอให้เราให้คะแนนการใช้บริการในครั้งนี้

uber-email-reciept

ส่วนใบเสร็จค่าใช้บริการแบบละเอียด Uber จะส่งให้กับเราทางอีเมล ซึ่งค่าบริการในช่วงทดลองให้บริการ uberX เทียบกับรถแท็กซี่ทั่วไป ก็ถือว่าไล่ ๆ กันครับ

Conclusion

จากการใช้บริการ uberX ผมคิดว่าถ้าไม่นับเรื่องของความสะดวกในการเรียกรถผ่านทางแอพ และความมั่นใจว่าถ้าเรียกรถแล้วคือได้รถเลยจริง ๆ ถ้าคนขับไม่โดดไปกลางทางซะก่อน uberX ก็ไม่แตกต่างอะไรจากรถแท็กซี่ทั่วไปที่เราไม่รู้ว่ารถยนต์ที่นำมาให้บริการจะมีสภาพเป็นอย่างไร คนขับจะขับรถให้เราดีไหม หรือรู้ทางไปหรือเปล่า

แต่ที่ผมติดใจเป็นพิเศษ คือการให้คนทั่วไปที่มีเพียงใบขับขี่ทั่วไปมาขับรถยนต์รับจ้าง ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าบริการ uberX นั้นจะปลอดภัยเท่ากับ UberBlack ที่ทาง Uber มีพันธมิตรเป็นบริษัทรถลีมูซีน ซึ่งคนขับต้องมีใบขับรถยนต์สาธารณะที่จะต้องมีการสอบประวัติอาชญากรรมก่อนการขอใบขับขี่ตัวนี้ ผมคิดว่าทาง Uber อาจจะคิดว่าตัวเองมีระบบให้ Rating อยู่แล้ว แต่ผมคิดว่ามันยังไม่เพียงพอสำหรับการให้บริการ uberX ครับ

สรุป ใครที่เจอปัญหาเรียกแท็กซี่แล้วแท็กซี่ไม่รับ uberX ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกบริการหนึ่ง สำหรับคนที่ต้องการแค่โดยสารรถยนต์จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง และไม่ต้องการการบริการระดับหรูหราอะไรมากมายครับ

สำหรับใครที่อยากลองนั่งทั้ง uberX และ UberBlack เพียงคลิกที่ลิ้งก์ referrer ของผม เพื่อสมัครบัญชีใหม่ ก็จะได้รับเดรดิตฟรี 200 บาทสำหรับเอาไปใช้บริการ Uber ทั้ง 2 แบบครับ

More info

Uber

Post in RE.V(iew)
Tags: ,

About AT1987

ผู้นิยมชมชอบในเรื่องของเทคโนโลยี งานดีไซน์ และ gadget ต่าง ๆ

4 thoughts on “ลองนั่ง uberX บริการคนขับรถยนต์ส่วนตัวราคาประหยัดจาก Uber

  1. nong

    คนขีบรถ Uber ทุกคนต้องสางใบขอตรวจสอบประวัติอาชญากรรมทุกคนค่ะ. ทางบริษัทจะให้ใบขอประวัติแล้วต้องเอาใบนั้นไปยื่นที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ค่ะ

    Reply
  2. tiger mawin

    สุภาพ อ่อนน้อม เหมือน uber black ทุกประการครับ เพราะอย่างนึงคนขับก็ได้รับประสบการณ์เลวร้ายกับ taxi เลวร้าย(บางคน) มาเหมือนกัน คนขับ x จึงจะไม่ทำลายตัวเอง ผมจะเปรียบเทียบว่า เมื่อตอนเศรษกิจปี 40 ล่มสลาย คนรวยต้องมาขายข้าวแกงโดยใช้มุมบ้านตัวเอง เค้าทำในสิ่งดีๆที่เค้าทาน มาทำให้ท่านทาน ประมาณนี้แหละครับ และคนขับ uber x ก็มีการศึกษาดี มีสังคมดี ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวหาว่าเชียร์ออกหน้าออกตา ก็ควรใช้วิจารณจักรยานในการทำความเข้าใจด้วยนะครับ

    Reply
    1. tiger mawin

      อ้อ ลืมบอกไปผมคนนึงที่ขับ uber x แบบ parttime ผมทำงานด้านครีเอทีฟ อยู่ครับ

      Reply

Leave a Reply