พาชิมข้าวไข่เจียว 699 บาท ที่ Maidreamin สาขา Gateway Ekamai

Maidreamin Gateway Ekamai

เมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้ว มีกระแสของ Maidreamin ร้านเมดคาเฟ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในไทย แล้วขายข้าวไข่เจียวกันในราคาจานละ 699 บาท จนเป็นเรื่องพูดคุยกันใน social network ต่าง ๆ อยู่พักใหญ่ วันนี้ RE.V-> เลยขอไปลองข้าวไข่เจียวที่ว่ากันสักหน่อย

Maidreamin Gateway Ekamai

ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น M ของห้าง Gateway Ekamai การเดินทางจึงสามารถเดินทางมาด้วย BTS ได้ ร้านแบ่งเปิดเป็นสองรอบ คือรอบ 11.00 – 17.00 และ 17.00 – 22.00 ใครที่จะมาแน่นอนสามารถโทรจองโต๊ะกับทางร้านก่อนได้

ผมไปถึงตอนประมาณ 2 โมงครึ่ง เมื่อไปถึงพบว่าร้านคนแน่นเยียด และมีคิวยาวไปถึง 4 โมง เนื่องจากผมนัด @VineCellar เอาไว้แต่ยังไม่มา ผมเลยรอไปเรื่อย ๆ ก่อนที่เมดจะเดินมาบอกว่า “รอบนี้เต็มแล้วนะคะ รอรอบใหม่อีกทีตอน 5 โมงเย็นค่ะ” พร้อมกับเอากระดาษ A4 เขียนแปะหน้าร้าน ผมก็ว่าไหน ๆ มาแล้ว นัดหมู่คณะไว้แล้ว แถมหมู่คณะติดงานกัน ยังมาไม่ถึง ก็เลยรอต่อไป

จนกระทั่ง 5 โมงเย็น เมดเดินมาขีดฆ่าที่กระดาษใบนั้นเป็น 5 โมงครึ่ง ผมก็รอกันต่อไป ในระหว่างที่ยืนรอ ผมก็พบว่านอกเหนือจากผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นที่น่าจะเป็นลูกค้าหลักของร้านซึ่งกำลังยืนรอคิวกันอยู่ ก็มีคนทั่ว ๆ ไปสนใจจะไปนั่งกินในร้านเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นเด็ก ๆ ที่เห็นร้านน่ารัก ก็จะลากพ่อแม่มาให้กินข้าวที่นี้ อีกกลุ่มก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุหน่อย ที่ผมเห็นมีคุย ๆ กับคนแถว ๆ นั้นแล้วให้คอมเมนท์ว่าร้านเหมือนไนท์คลับเลย

Maidreamin Gateway Ekamai

จนกระทั่ง 5 โมงครึ่ง เมดก็เปิดประตูปล่อยคนที่รอกันเข้าร้านได้แล้ว ก็เลยได้เข้ามาในร้านสักที ซึ่งวันที่ผมไปนั้นเป็นช่วงเปิดร้านจริงแล้ว จึงไม่มีฟรีค่านั่งชม.แรกอีกต่อไป ค่านั่งในร้านชม.คนล่ะ 50 บาทสำหรับโต๊ะชั้นล่าง และ 100 บาทสำหรับโต๊ะ VIP ที่น่าจะอยู่ชั้นบนของร้าน และทุกคนที่เข้ามาในร้าน ต้องสั่งเมนูคนละ 1 อย่างด้วย

Maidreamin Gateway Ekamai

ทางร้านมีของที่ระลึกพิเศษสำหรับคนที่เข้ามาในร้าน 100 คนแรก ก็จะได้สติ๊กเกอร์แบบนี้ไป

Maidreamin Gateway Ekamai

จากนั้นเมดก็จะเอาเทียนไฟฟ้าออกมา แล้วทำพิธีพาเข้าสู่ดินแดนของความฝัน ก่อนที่จะทิ้งเมนูเอาไว้ให้ สำหรับคนที่มาใช้บริการเมดคาเฟครั้งแรก โปรดอ่านกฏการใช้บริการที่อยู่หน้าแรกให้ดี ซึ่งสรุปใจความโดยรวมว่า ห้ามถ่ายรูปโดนใครก็ตามที่ไม่ได้มาด้วยกันกับเรา และอย่าคิดเกินเลยกับเมดมากกว่าพนักงานร้านอาหาร เพราะฉะนั้นใครติดนิสัยนั่งผับนั่งบาร์มา โปรดอย่านำมาใช้ที่นี้ เพราะพวกเมดอาจจะเปลี่ยนชุดเป็น Battle Dress แล้วรุมกระทืบท่านในร้านได้

สำหรับเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่นี้ โดยรวมแล้วจัดว่าราคาสูงทีเดียว คืออาหารเริ่มต้นที่ประมาณ 100 ปลาย ๆ ถึงประมาณ 300 บาทต่อจาน ส่วนเครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 30 – 100 กว่าบาท และที่ร้านยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายอย่างครบครั้น ทั้งค๊อกเทลผสมต่าง ๆ เบียร์ วิสกี้ โซจู สาเก เหล้าบ๊วย แม้แต่แชมเปญเลี้ยงฉลองก็มี พร้อมกับแกล้มไว้ทานคู่กัน เริ่มต้นประมาณ 100 ต้น ๆ – ปลาย ๆ

สำหรับราคาที่ว่ามาทั้งหมดยังไม่รวมภาษี 7% และค่าบริการอีก 10% ถ้าพร้อมสั่งอาหารเมื่อไร ก็ทำมือเหมือนแมวกวัก ร้องเหมียว เนี้ยว เนี๊ย หรืออะไรก็ได้ที่คล้าย ๆ แมว เมดก็จะมารับออเดอร์จากเราทันที แต่ถ้าเราไม่ทำตามนี้ เมดก็จะยืนมองเราอย่างเฉยชาต่อไป

Maidreamin Gateway Ekamai

สำหรับเครื่องดื่ม ผมเลือกชาเขียวรีฟีลมา ราคา 69 บาทมา ไม่ค่อยมีรสชาเท่าไร แต่ดีกว่าน้ำเปล่า Moe Drink ขวดล่ะ 30 บาทครับ จริง ๆ มีเครื่องดื่มตัวนึงที่เด็ดมากในแง่กิจกรรมคือ Love Cocktail*Reamin คือเมดจะสุ่มเอาอะไรก็ไม่รู้มาผสมเป็นค๊อกเทลแบบไม่มีแอลกอฮอล์ให้เรา โดยเธอจะมาผสมตรงหน้าให้เราดูกันเลย ระหว่างผสมก็เต้นไป ร้องเพลงไป เอาหูแมวใส่ให้คนสั่งด้วย อย่างไรก็ตามราคาที่พุ่งแรงไปไกลถึง 320 บาท และต้องมีภูมิต้านทานจากสายตาคนรอบข้างที่สูงพอควร อาจทำให้ต้องคิดหนักสักหน่อยเวลาจะสั่ง

เมนูขึ้นชื่อของ Maidreamin ตั้งแต่สมัยเปิดร้านที่ญี่ปุ่นคือ พวกอาหารจานโต ๆ ที่ไม่สามารถจะทานคนเดียวได้หมด ซึ่งมีทั้งหมด 3 เมนูคือ ข้าวห่อไข่ หรือข้าวไข่เจียวที่เป็นกระแสกันอยู่ ข้าวราดแกงกะหรี่ และไอศครีม ซึ่งถ้าเป็นอาหาร จะมาในขนาดสำหรับ 3 คนทาน ส่วนไอศครีมจะตักเป็นลูก ๆ ซ้อนกันขึ้นไปประมาณ 20 ซม.

สำหรับโบนัสของเมนูจานโตคือ สามารถขยายเวลาอยู่ในร้านต่ออีกครึ่งชม. และสามารถถ่ายรูปกับเมดทุกคนในร้านได้ 1 รูป ซึ่งปกติเราสามารถถ่ายรูปกับเมดได้แค่ทีละคนในราคารูปละ 100 บาท แน่นอนว่าเราไม่รอช้า สั่งข้าวห่อไข่จานใหญ่มาลองกันเลย

Maidreamin Gateway Ekamai

ตามธรรมเนียมของเมดคาเฟ การเสริฟอาหารจะต้องมีพิธีการอะไรบางอย่างเสียก่อนถึงจะทานได้ อาหารจานโตนี้ก็ไม่แตกต่าง คือพออาหารเสร็จ ทางร้านจะยังไม่ยกมาเสริฟ แต่จะตะโกนถามว่าใครสั่งอาหารจานนี้ ซึ่งเราจะต้องร้องเหมียว ๆ เพื่อเรียกเมดให้ยกอาหารมาให้ ในกรณีที่มีคนสั่งกันหลายคน ไม่รู้ว่าจานนี้เป็นของตัวเองหรือเปล่า เมดคนที่มาเสริฟจะแอบส่งสายตามาว่าจานนี้ของแก รีบร้องเหมียว ๆ เรียกฉันสักที อย่าให้ตามนาน ซึ่งถ้าเราไม่เรียก แล้วมีโต๊ะอื่นเรียกตัดหน้า จานนั้นเราก็อดกินนะครับ รอจานต่อไป

จากนั้นก็จะมีพิธีเพิ่มความอร่อยด้วยเมดและลูกค้าทั้งร้าน ก่อนที่จะวาดหน้าข้าวห่อไข่ด้วยซอส ซึ่งเราสามารถบอกเมดได้ว่าจะให้วาดรูปอะไร สำหรับพวกผมที่เป็นชายหนุ่มไร้ความฝันกันหมดแล้ว เลยบอกไปว่า “ลุยเลยครับ รูปอะไรก็ได้” พอเมดวาดเสร็จ ก็ได้เวลากินกันสักที

Maidreamin Gateway Ekamai

สำหรับรสชาดของข้าวห่อไข่นั้น ไข่ทำมาได้นุ่มกำลังดี ฝีมือทัดเทียมกับร้านข้าวห่อไข่ทั่ว ๆ ไปได้เลย ซึ่งจากการแอบดูในร้าน พบว่าผู้จัดการที่น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นนั้น ควบตำแหน่งพ่อครัวใหญ่ที่นี้ด้วย คือไม่นับเรื่องวัตถุดิบ ฝีมือในการทำนี้น่าจะออริจินอลมาจากสาขาญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

แต่ตัวข้าวผัดนั้นเป็นไปตามคาด คือมันค่อนข้างจืด ซึ่งผมทานข้าวห่อไข่ที่ญี่ปุ่นรสก็จะออกไปทางจืด ๆ ไม่ถูกปากคนไทยอยู่แล้ว แถมซอสที่ใช้ผัดน่าจะเป็นซอสมะเขือเทศธรรมดา เลยไม่ค่อยมีรสซอสติดมาเท่าไร เมดที่ยืนดูห่าง ๆ เหมือนจะรู้ เลยยกขวดซอสมาให้ให้ราดกินไปด้วยกัน อีกอย่างที่ไม่ชอบคือข้าวมันแฉะไป เข้าใจว่าลักษณะข้าวญี่ปุ่นนี้มันไม่เหมาะกับการมาเป็นข้าวผัดอยู่แล้ว แต่คือมันแฉะไปจริง ๆ นะ เข้าใจว่าอาจจะรีบทำ เพราะวันที่ไปคนสั่งเมนูนี้เยอะมาก

Maidreamin Gateway Ekamai

เมนูที่ลองต่อมาคือข้าวแกงกะหรี่ แกงกะหรี่เข้มข้น อร่อยมาก แต่ร้านนี้แปลกอย่างคือให้ข้าวมากกว่าตัวแกง ซึ่งตรงกันข้ามกับข้าวแกงกะหรี่ทีเคยกินมา

Maidreamin Gateway Ekamai

อีกจานก็สปาเกตตี้โบโลเนสไก่ ซอสเข้มข้นดี รสเค็มพอควร ตามสูตรอาหารอิตาเลี่ยน แต่ตอนผมกินรู้สึกว่าได้รสไหม้ ๆ จากซอส ซึ่งไม่รู้ว่าเขาทำซอสไหม้หรือเปล่า

นอกเหนือจากเรื่องอาหารแล้ว ที่ร้านก็ยังมีการแสดงร้องเพลงประจำร้าน ซึ่งก่อนที่จะเริ่ม ก็มีการขายแทงไฟกันก่อน ซึ่งในโต๊ะผมก็สนใจ แต่ไม่รู้ว่าควงอย่างไร เลยไม่เอา พอเพลงเริ่มขึ้น ผมพบว่าลูกค้าโต๊ะอื่นที่น่าจะเป็นสายไอดอล จุดแท่งไฟพร้อมยิงมิกซ์กันดังลั่นร้านดั่งกับที่นี้เป็นเธียเตอร์ของ AKB48 เลยอย่างไรอย่างงั้น ก็เรียกว่าได้ความสนุกเฮฮากันไป

สรุปการทานอาหารมื้อนี้ เป็นอาหารมื้อที่แพงที่สุดในชีวิตเลย หมดไปประมาณ 1,700 บาท โดยรวมแล้วรสชาดอาหารโอเค คือกินได้ อร่อยด้วย แต่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างให้เหมาะกับลิ้นคนไทยมากขึ้น การบริการดีทีเดียว แต่ช่วงที่คนเข้าร้านเยอะ ๆ เมดในร้านอาจจะดูแลได้อย่างไม่ทั่วถึงเท่าไร โดยเฉพาะตอนเวลาคนสั่งเมนูจานโตกันเยอะ ๆ

อย่างรอบที่ผมไปนี้ น่าจะมีเกิน 10 จานแน่นอน เพราะผมทำท่าเพิ่มความอร่อยกันจนกลับบ้านมาก็ยังทำท่านี้ได้อยู่ ซึ่งเวลาทำมันต้องเกณฑ์เมดทั้งร้านไปทำน่ะแหละ ส่วนเรื่องราคาที่แพง ให้คิดซะว่าเรามาร้านนี้ เราไม่ได้มากินข้าว แต่มานั่งเล่นกันในสวนสนุก จะรู้สึกคุ้มค่าเงินมากกว่า

ส่วนเรื่องความน่ารักของเมด ไม่ว่าคุณจะชอบเมดสายอะไรก็ตาม ที่นี้น่าจะตอบสนองความต้องการได้หมด แต่ถ้าใครเป็นคนรักเมดตัวเล็ก ๆ ควรมารอบกลางวันจะดีกว่าครับ

More info

Maidreamin(Thailand) fan page

6 thoughts on “พาชิมข้าวไข่เจียว 699 บาท ที่ Maidreamin สาขา Gateway Ekamai

  1. zotix

    วันศุกร์ที่แล้ว ได้ผ่านไปหน้าร้าน สงสัยอยู่ว่า คนดูคนเข้าร้าน หรือว่ามีคนต่อคิวเยอะกันแน่ :p

    Reply
  2. TeeNoy

    น่าจะถ่ายรูปคู่เมดมาให้ดูด้วยนะ

    Reply
  3. Hey

    ราคานี้ไปทานบุฟเฟ่ต์ mandarin oriental ดีกว่ามั๊ย

    Reply
  4. Guest

    “ใครเป็นคนรักเมดตัวเล็ก ๆ ควรมารอบกลางวันจะดีกว่า”

    อยากไปเพราะคำพูดตรงนี้แหละครับ 5 5 5..
    ปล. เมดเป็นคนไทยหมดเลยใช่มั้ยครับ ?

    Reply

Leave a Reply to HeyCancel reply