สำหรับเพื่อน ๆ ที่บริโภคเสียงเบสเป็นชีวิตจิตใจเวลาฟังเพลง พอดีทาง Sony ให้ยืมหูฟังครอบหูตัวท็อปในซีรีย์ XB มา ซึ่งก็คือเจ้า MDR-XB900 นั้นเอง มาดูกันว่าหูฟังตัวนี้จะตอบโจทย์เพื่อน ๆ กันหรือเปล่านะครับ

สำหรับหูฟังรุ่น MDR-XB900 นี้เป็นหูฟังรุ่นใหญ่ที่สุดในซีรีย์ Extra Bass ล่าสุดของทาง Sony ซึ่งหูฟังซีรีย์ Extra Bass นี้เป็นหูฟังที่เน้นเสียงของเบสที่ให้อารมณ์เหมือนเราไปยืนอยู่หน้าตู้ลำโพงใหญ่ ๆ เหมาะกับการฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์หรือฮิปฮ็อป เช่นเดียวกันกับหูฟังของ Beat และหูฟังที่เน้นเสียงเบสของยี่ห้ออื่น ๆ

ในหูฟังรุ่นใหม่ของซีรีย์นี้ทางทีมผู้ออกแบบได้ตัดสินใจที่จะปรับปรุงเสียงของซีรีย์นี้ให้เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนวมากขึ้น โดยเฉพาะแนว J-Pop และ K-Pop ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

Package

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าทาง Sony ให้ยืมหูฟังตัวนี้มา มันเลยถูกใส่มาในชุดสำหรับสื่อ ซึ่งตัวกล่องใหญ่และหนักกว่ากล่องสินค้าตัวจริงมาก ๆ

กล่องเป็นแบบสองชั้น ต้องจับหูข้าง ๆ แล้วดึงออกมา ซึ่งดึงยากมาก เพราะอากาศมันดูดอยู่

ข้างหลังกล่อง บอกจุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้

ด้านใน กล่องทำมาสวยดี ตรงโฟมที่รองหูฟังอยู่จะหันเป็นเหลี่ยมแหลม ๆ เหมือนตัวซับเสียงที่ใช้ในห้องอัดหรือห้องทดลองคลื่น

Product

ตัวหูฟังมีขนาดพอ ๆ กับหูฟังแบบปิดทั่ว ๆ ไป ซึ่งเป็นความตั้งใจขอทางทีมที่ออกแบบเอง ที่ต้องการหูฟังที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก พับเก็บได้ง่าย สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย และหน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้ใคร

ตัวหูฟังเท่าที่จับหลาย ๆ ส่วน พบว่าน่าจะทำจากพลาสติกทั้งหมด ส่วนที่ดูเป็นโลหะก็เป็นพลาสติกที่ทำเทคนิคการขัดให้มีรอยเหมือนอลูมิเนียมขัด แต่ไม่หมายความว่าดูก๋องแก๋ง ตัวพลาสติกและงานประกอบแข็งแรงทีเดียว

ตัวหูฟังสามารถปรับระดับให้เข้ากับขนาดหัวของผู้ฟังได้หลายระดับ และมีการบุตรงบริเวณที่จะรัดกับหัวเราด้วย

อีกจุดที่ทางทีมที่ออกแบบในส่วนหน้าตาของหูฟังที่ศูนย์การออกแบบของ Sony Electronics Inc. ที่อเมริกาเน้น คือเรื่องข้อต่อการหมุนต่าง ๆ  ส่วนของตัวไดร์เวอร์สามารถหมุนไป – มาในแกนต่าง ๆ ได้ ส่วนนึงก็คือเพื่อให้ตัวไดร์เวอร์แนบกระชับกับใบหูให้มากที่สุด

อีกส่วนก็คือเพื่อให้มันสามารถพับเก็บจนมีขนาดเล็กที่สุดตามที่พับให้ดูในรูปครับ

สายที่ใช้เป็นสายแบบแบนที่มีการเซาะร่องเอาไว้ เพื่อลดการพันกันของสาย และหัวปลั๊กชุบทองขนาด 3.5 มม.

สำหรับตัวขับนั้น ทางทีมออกแบบเลือกใช้ตัวขับแบบไดนามิคขนาด 50 มม. ซึ่งมีส่วนไดอะแฟรมที่ออกแบบมาสำหรับการขับเสียงต่ำโดยเฉพาะ มีการออกแบบโครงสร้างในตัวถังของไดร์เวอร์ที่เรียกว่า Advanced Direct Vibe Structure ที่ช่วยในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และช่วยให้เสียงในช่วงกลางและสูงดีขึ้น

ด้วยโครงสร้างแบบใหม่นี้ เลยทำให้ทีมออกแบบต้องออกแบบตัวแพดหรือฟองน้ำของหูฟังใหม่ จากที่รุ่นที่แล้วจะเป็นแแบบครอบหูลงไป มาเป็นแบบทับหูแทน เพื่อให้ตัวไดร์เวอร์กับหูของคนฟังซีลกันสนิทที่สุด ซึ่งตัวฟองน้ำเองยังเป็นทรงโดนัทอยู่ แต่ส่วนที่เป็นหนังจะขึงคลุมฟองน้ำทั้งหมด และตัดหนังตรงกลางออก ให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นผ้าให้เสียงออกมา ซึ่งการออกแบบฟองน้ำแบบนี้ก็ไม่ได้พบเห็นกันบ่อย ๆ สักเท่าไร

Performance

พล่ามกันมามาก ก็ได้เวลาทดลองฟังกันแล้วว่าสิ่งที่เหล่าทีมพัฒนาเคลม ๆ กันไว้ มันจะออกมาจริงอย่างที่ว่าหรือเปล่า

ในส่วนการสวมใส่นั้น เวลาเอาหูฟังสวม ตัวแพดที่มีช่องว่างตรงกลางมันจะกดหูบุ๋มลงไป เพื่อช่วยให้การซีลระหว่างหูกับไดร์เวอร์แนบแน่นกันมากขึ้น ด้วยฟองน้ำที่นิ่มทำให้สามารถใส่ฟังเพลงได้นานอย่างสบาย ๆ

สำหรับในเรื่องของเสียง จากการใส่ฟังครั้งแรกกับทั้ง iPod nano ตัวประจำ WALKMAN F800 และ VAIO Duo 11 นึกถึงแนวเสียงของหูฟังสอดหู EX Series คือแนวเสียงจะพุ่ง ๆ หน่อย แต่พ่วงซับวูฟเวอร์มาด้วยประมาณนั้น ตัวหูฟังขับได้ไม่ยากมากนัก

ช่วงเสียงเบสที่เป็นพระเอกของหูฟังตัวนี้ เบสแน่น ตึบ ออกมาเป็นลูก ๆ และมีแรงอัดจนรู้สึกได้ เชื่อว่าผู้นิยมเบสเป็นชีวิตจิตใจน่าจะชอบอยู่ ช่วงเสียงกลางจะออกพุ่ง ๆ หน่อย แต่โดนความเด่นของเสียงเบสมากลบไปบ้าง ส่วนเสียงแหลมนั้นผิดคาดเล็กน้อย คือมันออกมาเป็นธรรมชาติและใส ผิดกับพวกหูฟังเน้นเสียงเบสหลาย ๆ ตัวที่พอเน้นเสียงเบสแล้ว ก็จะไปกลบเสียงแหลมแทน

เรื่องการแยกรายละเอียดเสียงทำได้ดี แต่เสียงเบสดีด ๆ รัวติด ๆ กันแบบที่ป๋าเทตซึแห่ง L’Arc-en-Ciel ดีด ยังแยกไม่เด็ดขาดเท่าไร ส่วนมิติของเสียง เสียงจะมากระจุกกองอยูตรงกลาง โดยเฉพาะเสียงเบส แต่เสียงแหลมยังทำมิติได้กว้างกว่าเสียงช่วงอื่น ๆ อยู่

หากเทียบเสียงกับหูฟังครอบหูในค่ายตัวเองอย่าง MDR-1R ตัวนี้เสียงใสกว่า แยกรายละเอียดเสียงดีกว่า มิติกว้างกว่า แต่เสียงเบสถึงจะลงลึกจริง แต่แรงกระแทกน้อยกว่ากันอยู่พอควร เทียบกับเจ้า MDR-XB90EX ที่เป็นฝาแฝดเวอร์ชั่นสอดหู แนวเสียงออกมาแนวเดียวกันเลย แต่แรงกระแทกเบสและเสียงแหลมนั้นน้อยกว่า และถ้าให้เทียบกับหูฟังแนวเดียวกันตัวอื่นที่เคยฟัง อย่าง Beat Solo ซึ่งแนวเสียงเน้นเบสที่ให้อารมณ์เหมือนเปิดเพลงในผับ ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ามากครับ เมื่อเทียบราคาค่าตัวกัน

Conclusion

จากการใช้ชีวิตกับเจ้า MDR-XB900 มาสักพักนึง ยอมรับว่าชอบเสียงเบสที่แน่น ๆ เป็นลูก ๆ และมีแรงอัดเหมือนซับวูฟเฟอร์ของมัน และเสียงเบสของมันถึงจะเด่นแต่ก็ยังไม่กลบเสียงช่วงความถี่อื่นมากนัก และมีเซอร์ไพร์สกับช่วงเสียงแหลมที่ออกมาเป็นธรรมชาติและใส นอกเหนือจากเรื่องเสียงแล้ว ตัวหูฟังเองก็ใส่ง่ายและซีลกันเสียงรบกวนรอบและกันเสียงรั่วออกไปจากหูฟังได้ดีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ตอนช่วงที่ผมได้หูฟังตัวนี้มาลอง ทาง Sony ได้เปิดตัว MDR-XB920 หรือก็คือเจ้า MDR-X10 ที่ขายอยู่ในตลาดอเมริกา  ซึ่งเป็นตัวไมเนอร์เชจของ MDR-XB900 โดยจะเปลี่ยนสายเป็นสายแบบถอดได้แทน ซึ่งจะมีสายแบบรีโมทสำหรับ iDevice มาให้ และมีการปรับโทนสีของหูฟังใหม่ ให้เป็นสีโทนสว่างและเจ็บโดนใจวัยรุ่นมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่สูงขึ้นพอ ๆ กับ MDR-1R เลยทีเดียว

สรุปแล้ว ใครกำลังมองหาหูฟังเน้นเสียงเบส ที่สามารถไปได้กับเพลงหลาย ๆ แนว  MDR-XB900 ก็จัดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจตัวหนึ่งครับ

Like

• หูฟังใส่ได้สบายมาก ฟังได้นาน
• เสียงเบสแน่น กระแทก เป็นลูก ๆ
• เสียงแหลมเป็นธรรมชาติ ใส

Don’t like

• วัสดุเป็นพลาสติกทั้งตัว คนที่เน้นเรื่องวัสดุอาจจะไม่ชอบ
  

More info

Sony

The Headphones Park

ขอบคุณ Sony Thai ที่ให้ยืมหูฟังมารีวิวด้วยครับ