วันนี้ RE.V-> ขอเปลี่ยนบรรยากาศ จากการรีวิว gadget ต่าง ๆ มาเป็นพามาดูร้านเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังจากประเทศสวีเดน นั้นคือ IKEA ที่เพิ่งจะมาเปิดสาขาในเมืองไทยเราที่ Mega Bangna นั้นเอง ว่าแล้วไปดูกันเลยดีกว่าครับว่า IKEA ที่ขึ้นชื่อด้านการดีไซน์สินค้า และประสบการณ์ในการช็อปปิ้งที่แตกต่างนั้นมันจะสร้างความแตกต่างจากห้างเฟอร์นิเจอร์ของบ้านเราอย่างไร
ด้านนอกตัวอาคารสีน้ำเงินกับโลโก้ IKEA สีเหลืองอันสดุดตา ส่วน Mega Bangna ยังสร้างไม่เสร็จนะครับ แต่เห็นแล้วมันใหญ่มาก ใหญ่กว่า IKEA อีก
ช่วงที่ผมไป ยังมีเปิดรับสมัครสมาชิก IKEA FAMILY อยู่ ซึ่งจะเอาไว้ใช้ในการสะสมแต้มเมื่อซื้อสินค้า ลดราคาสินค้าบางตัว และฟรีเครื่องดื่มสองแก้วที่ร้านอาหาร ส่วนตัวผมสมัครผ่านไปผ่านทางเว็บตั้งแต่ IKEA ยังไม่เปิด จนได้บัตรจริงเรียบร้อยแล้ว (ตอนผมไปครั้งล่าสุด ไม่ได้ตั้งเคาท์เตอร์รับสมัครแบบนี้แล้ว ต้องไปสมัครที่คอมพิวเตอร์ในโชว์รูมแทน ซึ่งจะมีเครื่องพิมพ์บัตรสมาชิกแบบใบเสร็จแทน)
สำหรับที่ IKEA บางนา จะมี 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นโชว์รูม และร้านอาหาร ส่วนชั้นล่างจะเป็น Market Hall โกดังเฟอร์นิเจอร์
ชั้นล่างยังมี Småland เป็นห้องของเล่นให้เด็ก ๆ เข้าไปเล่นรอผู้ปกครองช็อปปิ้งได้ และที่นี้ยังเป็นที่รับสมัครสมาชิก Småles สำหรับเด็ก ซึ่งจะมีส่วนลดในการซื้อของ อาหาร และสะสมแต้มแลกของอีกด้วย
ก่อนที่จะเข้าไปช็อป ทาง IKEA จะมีเตรียมอุปกรณ์การช็อปเอาไว้ด้านหน้า นั้นคือแผ่นพับ สายวัด ดินสอ หนังสือแคทตาล็อก และถุงใส่ของ ซึ่งสิ่งที่เราเอากลับได้มีแค่แผ่นพับ เอกสารรายละเอียดสินค้า และแคทตาล็อกที่เป็นของสินค้าแต่ละหมวด (สองอย่างหลังไปเอาได้ในโชว์รูม) ที่เหลือเอากลับไม่ได้ ขากลับอย่าเผลอถือติดไป เพราะอาจโดนยามเรียกได้
ถ้าใครเพิ่งมาครั้งแรก ควรอ่านแผ่นพับให้ดี เพราะจะมีวิธีการซื้อสินค้า แผนที่ของแต่ละส่วน (คนมาใหม่ ๆ ควรศึกษาให้ดี เพราะไม่งั้นมีสิทธิ์เดินหลง) และด้านหลังจะมีตารางไว้ให้จดรายละเอียดสินค้าที่สนใจครับ เมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้ว ก็ลุยกันได้เลย
เข้ามาส่วนแรกจะเป็นส่วนโชว์รูม ซึ่งจะมีเฟอร์นิเจอร์ประกอบเสร็จแล้ววางเอาไว้ให้เราลองได้เติมที่ นอกจากนี้ทาง IKEA ยังได้จัดห้องตัวอย่าง ไว้เป็นไอเดียให้เรานำไปแต่งห้องของเราเองด้วย
เก้าอี้อาร์มแชร์รุ่น POÄNG (พัวแอง) เป็นรุ่น signature ของ IKEA เขา ผมลองนั่งแล้ว สบายมาก ราคาไม่แพงมาก แถมรับประกันยาวนานถึง 10 ปี
สินค้าบางตัวที่เป็นตัวเด่น ๆ ก็จะมีการทดสอบคุณภาพให้เห็นกันจะจะด้วย อย่างที่เห็นก็คือการทดสอบอาร์มแชร์พัวแอง
สำหรับการซื้อสินค้าในโชว์รูมนั้น ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์เราจะต้องไปเอาของตัวจริงที่ส่วนโกดัง ให้เราดูที่ป้ายที่แปะอยู่กับของที่เราสนใจ จะมีข้อมูลว่าของที่เราจะเอาอยู่ที่ชั้นเก็บของแถวไหน ช่องไหน
ส่วนสินค้าอื่น ๆ ในโชว์รูม เช่น สินค้าหมวด IKEA FAMILY (เป็นพวกกระเป๋า เครื่องใช้ในบ้าน และอุปกรณ์ป้องกันอันตราย) เครื่องครัว เครื่องนอน ของเล่น สีย้อมไม้ เราสามารถหยิบจากที่นี้ได้เลย แต่ของบางชิ้นก็มีใน Market Hall เหมือนกัน
นอกจาก IKEA จะจัดห้องตัวอย่างให้ดูแล้ว ยังมีการจำลองเอาแปลนห้องคอนโดหรือบ้านจริง ๆ แล้วตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ไว้ให้ได้เดินชมกันอีกด้วย
จบจากส่วนโชว์รูมแล้ว ใครเหนื่อยหรือหิวก็แวะร้านอาหารก่อน ถ้าจะช็อปต่อก็ลงไปชั้นล่าง เราจะเจอ Market Hall ซึ่งจะขายสินค้าที่ไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย เช่น เครื่องครัว เครื่องนอน ผ้าและพรม อุปกรณ์สำนักงาน โคมไฟและหลอดไฟ ของแต่งสวน ตรงนี้จะคล้าย ๆ กับส่วนแผนกเครื่องใช้ในบ้านตามห้างทั่วไป
ราคาสินค้าหลาย ๆ อย่างในนี้ จัดว่าถูกกว่าหลาย ๆ ห้างเหมือนกัน
ส่วนสุดท้ายก็คือส่วนของโกดังเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเราจะต้องเอารถเข็นไปเอาเฟอร์นิเจอร์ออกจากชั้นมาเอง ซึ่งตำแหน่งของสินค้าก็จะอยู่บนป้ายที่ติดกับตัวสินค้าในโชว์รูมครับ
ใครที่อยากได้ของถูก ก็แวะเข้ามาดูแผนกสินค้าตามสภาพในโกดัง ซึ่ง IKEA จะเอาสินค้ามีตำหนิหรือสินค้าตัวโชว์มาขายลด 30% แต่จะไม่มีการรับประกันและคืนสินค้า
หลังจากที่เราช็อปทุกอย่างจนเสร็จสิ้น ตรงทางออกเราก็จะเจอแคชเชียร์เก็บตังค์สักที สำหรับคนที่ซื้อของชิ้นเล็ก ๆ มา ทาง IKEA ไม่มีถุงพลาสติกให้นะครับ แต่มีถุงกระสอบพลาสติกติดสายสะพายขาย 29 บาท ถ้าขาดสามารถนำมาเปลี่ยนใหม่ได้
จริง ๆ เมื่อจบจากแคชเชียร์แล้ว เราจะเจอ Bistro กับแผนกอาหารสวีเดน แต่ผมขอยกยอดไว้ไปตอนหน้าอีกตอน
ส่วนบริการลูกค้า มีโต๊ะ อุปกรณ์ และกระดาษไว้ให้ห่อพวกแก้ว จาน ชาม กลับบ้าน (จริง ๆ IKEA เขามีกล่องกระดาษสำหรับใส่แก้ว จาน ชามด้วย แต่ใบละ 30 บาท) มีที่ทดสอบหลอดไฟให้ด้วย
สำหรับคนที่ต้องการใช้บริการประกอบเฟอร์นิเจอร์ ตัดเย็บผ้า ขนส่ง หรือเปลี่ยนสินค้าก็สามารถมาติดต่อได้ตรงนี้ ซึ่งจะมีเคาท์เตอร์ของ out source ที่ทาง IKEA จ้างไว้อยู่ สำหรับคนที่อยากได้หนังสือแคตตาล็อกเวอร์ชั่นที่ทำแจกลูกค้า ก็สามารถมาลงทะเบียนที่นี้ได้เช่นกัน
สำหรับคนที่ขนของกลับเอง ตรงทางออกจะมีเหล็กกั้นไม่ให้เราเอารถเข็นออกไปที่จอดรถได้ เราจะต้องเอารถมาจอดตรงทางออกแล้วขนของใส่รถกันเองครับ
Conclusion
ถ้าดูกันลึก ๆ แล้ว IKEA นั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับพวก Index หรือ SB Furniture สักเท่าไร แต่ IKEA นั้นก็สร้างความแปลกใหม่ในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเราด้วยระบบช่วยตัวเอง โดยมีการแชร์ข้อมูลสินค้าไว้อย่างละเอียดมาก ๆ ซึ่งผมคิดว่าเหมาะมากกับคนที่ไม่ค่อยชอบเจ้าหน้าที่เดินตามไปมา และสินค้าหลาย ๆ ตัวดีไซน์ออกมาตรงใจผู้ใช้มากกว่า ที่สำคัญสินค้าบางชิ้นคุณภาพดีและราคาถูกกว่า (ถ้าเราสามารถขนและประกอบเองได้)
เนื่องช่วงที่ผมไปนั้นคนมาเที่ยวเยอะมาก ๆ ทำให้การเดินไม่ค่อยเมามันเท่าไร ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะ ๆ ให้ไปวันธรรมดาจะดีกว่า ส่วนใครไปแล้ว เป็นอย่างไรก็มาแชร์กันผ่านคอมเมนท์ได้เลยครับ
ปล. ตอนหน้า เราจะมารีวิวร้านอาหารของ IKEA กันครับ
ผมก็ไปมาแล้วครับ ชอบแบบนี้มากกว่าพวก Index หรือ SB Furniture
และวันนี้ก็กำลังจะไปอีกรอบครับ
ได้ไปมาแล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าในเรื่องราคาสินค้าเมื่อรวมกับค่าขนส่ง, ค่าประกอบและหากส่งของเกินกว่า 3 วันนับจากวันที่ซื้อจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ตัวอย่าง (ได้เช็คกับทาง IKEA และฝ่าย Delivery แล้ว)
1) ราคาสินค้าที่สนใจจะซื้อจริงๆ 70,000 (โซฟา+ชั้นวางทีวี)
2) ค่าขนส่งจาก ikea ถึง นนทบุรี ประมาณ 1,700
3) ค่าประกอบและติดตั้ง 7% ของราคาสินค้า (70,000 x 7%) 4,900
4) กรณีจะให้ส่งของหลังจากสั่งซื้อแล้ว 3 วันนับจากวันซื้อสินค้า ต้องเสียค่าฝากของอีกวันละ 100
เหตุการณ์นี้ไปมาแล้วแต่ไม่มีของ และหากลูกค้าจะชำระเงินไว้ก่อนและของมาค่อยนัดการส่งของกันอีกครั้ง IKEA ก็ไม่รับนะค่ะ ซึ่งลูกค้าจะต้องไปใหม่อีกรอบ (เสียเวลามาก) ซึ่งต้องกับมาถามว่าลูกค้าต้องการสินค้าขนาดนั้นหรือไม่ ถึงต้องยอมเสียเวลาและเสียเงินเพิ่มอีก
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสินค้า IKEA จะแพงกว่ามาก (โค-ตะ-ระ สุดๆ เกินไป) เมื่อเปรียบเทียบกับ SB หรือ Index ในไม่มีค่าขนสง, ไม่มีค่าประกอบหรือติดตั้ง, และไม่มีการคิดค่าฝากของหากลูกค้ายังไม่สะดวก (โดยลูกค้าจะแจ้งว่าขอให้ส่งในวันที่เท่าไร) หากเป็นค่าขนส่งพอรับได้
สำหรับสินค้า…ผมว่าหลากหลาย ดูบ่อยๆเลือกดีๆอาจได้ถูกใจถูกเงิน…แต่ถ้าอยากได้ถูกๆแปลกๆ ก็ ebay ไปครับ
สำหรับทำเลที่ตั้ง…ผมว่าเหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว เดินทางไปเองได้บ่อยๆนะ…โดยเฉพาะคนอยู่แถวบางนา
ซึ่งใครอยู่สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี…และไม่มีเวลามาดูบ่อยๆเดินๆบ่อย…ผมว่าไม่ต้องมาครับเสียเวลาและค่าน้ำมัน
แล้วจะพาลเสียอารมณ์ไปด้วย
ส่วนตัวอยู่บางนา…เดินเรื่อยๆ มีงบก็ซื้อ ไม่มีงบก็เดินเก็บไอเดียไป…แถมมีที่ให้ทำงานและนั่งหลับด้วย
ขอบคุณครับ