สวัสดีครับ วันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Windows 7 Blogger Day ซึ่งจัดโดย Microsoft ประเทศไทยครับ งานนี้เป็นงานที่ทาง Microsoft ได้จัดขึ้นเพื่อพบปะพูดคุยกับเหล่าบล็อกเกอร์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะตัว Windows 7 ซึ่งกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกไม่นานครับ ผมก็จะเขียนถึงว่าในงานมีพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง ความเห็นของผมต่องานนี้ ว่าแล้วก็ตามไปอ่านกันเลยครับ

สำหรับงาน Windows 7 Blogger Day นี้ก็จัดขึ้นที่ห้องประชุมของทางบริษัท Microsoft ประเทศไทยที่ตึก CRC All Season Place ครับ ผมไปงานนี้กับ @tongkatsu ถึงงานประมาณบ่ายโมงครึ่ง เกือบไม่ทัน ในงานก็มีพิซซ่าจาก The Pizza Company กับน้ำอัดลมกระป๋องมาเลี้ยงรับรอง (มีไก่ทอด KFC มาเติมช่วงเบรค) ส่วนผมกินข้าวกับพี่ตงกันมาก่อนแล้ว ผมเลยเอาน้ำมาดื่มอย่างเดียว

พอใกล้ถึงเวลาเริ่มงาน ทางทีมงานก็เริ่มเปิดวิดีโอเกี่ยวกับโรงพยาบาลในอนาคต มีการนำเทคโนโลยีเช่น Microsoft Surface มาประยุกต์ใช้ ผมไม่แน่ใจเป็น mock-up หรือเปล่า แต่ก็ช่วยทำให้เห็นภาพได้ดีทีเดียวว่าเราจะเอามันไปใช้งานอะไรได้บ้าง

พอถึงเวลาก็มีการกล่าวต้อนรับจากทางทีมงาน และทีมงานก็เริ่มด้วยการพูดถึงความสามารถเท่ ๆ 7 อย่างของ Windows 7 (หลายคนน่าจะทราบกันอยู่แล้ว) ก่อนที่จะเชิญผู้ใหญ่มากล่าวเปิดงานกันอย่างเป็นทางการ และพูดถึงว่าใน Windows 7 นั้นมีคนไทยเขาไปเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาด้วย

กิจกรรมในงานเริ่มต้นด้วย การเชิญเหล่าบล็อกเกอร์ชั้นนำมาพูดถึงฟีเจอร์ใน Windows 7 ที่ชอบกัน โดยจะมีทีมงานจากทาง Microsoft มาให้ความเห็นหลังจากแต่ล่ะคนพูดเสร็จด้วย ตัวรายละเอียดผมไม่ขอลงลึกมากนะครับ เพราะบางอันไม่มีอะไรเลย และบางอันก็ลึกไป สามารถเอามาเขียนได้เป็นอีกโพสนึงเลย

DirectX 11 โดย Mona Vista

พูดถึงความสามารถใหม่ ๆ ของ DirectX ตัวใหม่ครับ

Paint และ WordPad ตัวใหม่ โดย MK Blognone

ตัว Paint สามารถ crop รูปได้แล้ว WordPad เปิด docx และ open format ได้ ที่สำคัญสองตัวนี้แถบเครื่องมือเป็น Ribbon หมดแล้ว

Windows PowerShell  โดย Lew Blognone

ตัวนี้คล้าย ๆ Automator ใน MacOS X คือเขียนคำสั่ง command line เป็นสคริปต์ไว้ แล้วเอามารันที่หลังได้ นอกจากนี้ยังใช้กับ Windows Task Scheduler เพื่อให้สั่งรันตามเวลาที่กำหนดไว้ได้ โดยตัวอย่างจะทำการดึงภาพจาก RSS feed มาเก็บลงเครื่องไว้เพื่อเอาไว้ใช้กับ slideshow wallpaper

จริง ๆ Windows PowerShell  ไม่ใช่ของใหม่ของ Windows 7 เพราะมีมาให้ตั้งแต่ Windows Vista แล้ว แต่ต้องไปโหลดเองหรือใช้ Windows Update (ผมก็โหลดไว้แต่ไม่ได้ใช้ ผมกลับมาจากงานเลยคิดว่าจะลองใช้ดูครับ)

Windows Wallpaper Feed โดย FordAntiTrust ThaiThinkPad

จริง ๆ พี่ฟอร์ดจะพูดเรื่อง Windows Backup แต่เนื่องจากกินเวลานาน เลยเปลี่ยนเป็นเรื่องนี้แทน โดยเริ่มต้นจาก Active Desktop ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เราสามารถนำไฟล์ html ไปรันเป็น desktop ได้ ซึ่ง Active Desktop นั้นยกเลิกใน Windows Vista ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่กลับมาในรูปของ Windows Sidebar แต่ก็ยังตอบโจทย์เก่าไม่ได้ ใน Windows 7 ได้เพิ่ม slideshow wallpaper มา ซึ่งจะเอารูปในโฟลเดอร์มาทำเป็น wallpaper และก็จะเปลี่ยนรูปไปเรื่อย ๆ ซึ่งตรงนี้เราสามารถใช้รูปจาก RSS feed ได้ และพี่ฟอร์ดก็เรียกมันว่า Wallpapercast

พี่ฟอร์ดนำแนวความคิดนี้ไปสร้างเวบ Wallpapercast ชื่อ iArtWrk.com ให้คนมาโหลด theme ที่มีลิ้ง RSS feed อยู่และพอใช้ theme นี้มันก็จะไปดึงรูปมาให้ ซึ่งเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่น ๆ เช่น ด้านการท่องเที่ยว สามารถเอารูปสถานที่ท่องเที่ยวไปทำเป็น wallpaper ให้คนโหลดได้ เป็นต้น

IE6 IE7 IE8 ในเครื่องเดียวกันด้วย Windows XP mode โดย 9Aum ScriptDD และ ThaiThinkPad

อันนี้เป็นการใช้โปรแกรม IE ตัวเก่า ๆ ผ่านทาง Windows XP mode ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการรันโปรแกรมผ่านทาง virtual machine โดยโปรแกรม Microsoft Virtual PC สำหรับ Windows XP mode ผมจะเขียนในหัวข้อถัดไปครับ

หลังจากจบการนำเสนอฟีเจอร์ที่ชอบของเหล่าบล็อกเกอร์แล้วก็จะเป็นตาของทางทีมงาน Microsoft มานำเสนอบ้างล่ะครับ

Virtualization

ผมไม่รู้ว่าจะใส่หัวข้อนี้อย่างไรดี เพราะมันเป็นเรื่องปน ๆ กันหลายเรื่อง เลยใช้ว่า Virtualization นี้แหละ สำหรับหัวข้อนี้ทางทีมงานได้มานำเสนอว่า เราสามารถที่จะนำฟีเจอร์ Virtualization บน Windows 7 ไปทำอะไรได้บ้าง นอกเหนือจากการเอาไปรันโปรแกรมเก่า ๆ บน Windows XP ซึ่งก็มีการสาธิตดังนี้ครับ

• โปรแกรมที่เราลงใน Windows XP mode นั้นจะเพิ่มเข้ามาในแถบ start menu ด้วย โดยเวลาเรียกโปรแกรม ตัวโปรแกรมก็จะโหลดขึ้นมาเลย เหมือนโปรแกรมตัวนึง สาเหตุที่ทำแบบนี้ได้เพราะ kernel ของ XP มันอยู่ในโหมด hibernate อยู่แล้ว เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับโปรแกรมเก่า ๆ ถึงแม้ประสิทธิภาพอาจจะไม่เร็วเท่า
• เราสามารถนำไฟล์ .vhd ซึ่งเป็นไฟล์ฮาร์ดดิสก์เสมือนไป mount ให้เป็นฮาร์ดดิสก์เรียกใช้งานจริง ๆ ได้ (เหมือน mount image DVD ผ่าน DAEMON Tools หรือ mount ไฟล์ .dmg บนแมค) อันนี้ทางทีมงานยกตัวอย่างเรื่องของการคัดลอกไฟล์ขนาดเท่ากันแต่ไฟล์หนึ่งมีไฟล์เดียว อีกไฟล์มีจำนวนมากกว่ากัน โดยไฟล์ที่มีจำนวนมากกว่าจะคัดลอกได้ช้ากว่า เพราะต้องมีการเปิด I/O ในการเขียนไฟล์เยอะกว่า ซึ่งเราสามารถนำ .vhd นี้ไปเก็บไฟล์เล็ก ๆ เอาไว้ แล้วพอไม่ใช่ก็ unmount ออก แล้วก็อปไปไว้เครื่องอื่นได้รวดเร็วกว่ามานั่งก็อปไฟล์แยกกัน
• เราสามารถบูต guest OS โดยไม่ต้องรันผ่าน host OS ได้ โดยเวลาบูต จะมีการบูตไฟล์ host OS เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่เหลือจะบูตของ guest OS ทั้งหมด โดยประสิทธิภาพการใช้งานแทบไม่แตกต่างกัน แต่ใช้ได้เฉพาะ guest Os ที่เป็น Windows 7 หรือ Windows Server 2008 เท่านั้น

Touch

ใน Windows 7 นั้นรองรับระบบ touch ด้วย โดยทีมงานได้นำเครื่องจาก HP มาสาธิตโดยรับจุดสัมผัสได้สูงสุด 8 จุดพร้อมกัน

สำหรับโปรแกรมที่นำมาสาธิต (และน่าจะ bundle กับ Windows 7 ตัวจริงด้วย) มาจากโปรแกรมที่ใช้บน Microsoft Surface ครับ ซึ่งก็มีโปรแกรมดูรูป โปรแกรมแผนที่เป็นลูกโลกสามมิติ สามารถซูมไปดูเมืองต่าง ๆ ได้ และตัวเมืองเองก็เป็นสามมิติด้วย การทำงานค่อนข้างรวดเร็ว

นอกจากนี้โปรแกรมที่รองรับ touch มาเลยก็มี Internet Explorer 8 กับ Paint โดย IE สามารถใช้นิ้วซูมหน้าเวบได้ ส่วน Paint สามารถวาดรูปได้ทีละสองนิ้วพร้อมกัน

Windows Server 2008 R2 Hyper-V

ในงานมี Product Manager ของส่วน server มาพูดแนะนำ Windows Server ด้วย ซึ่งในตัว Windows Server ตัวใหม่ จะมีคุณสมบัติใหม่ ๆ คร่าว ๆ ดังนี้ครับ

• รองรับ CPU ได้สูงสุด 256 core (ในงานมีกล่าวถึงว่า Intel ทำ CPU 80 core ได้แล้ว ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
• VT ทำ Virtual Machine ได้แล้ว
• ประหยัดไฟขึ้น โดยสามารถปิด core CPU ที่ไม่ได้ใช้งาน, ปรับ p-state (หรือความเร็ว CPU) ตามการใช้งาน และรองรับการใช้ SAN ได้ เพราะ SAN จัดการฮาร์ดดิสก์ได้ดีกว่า และประหยัดไฟกว่า
• Branch Office Network Performance เป็นระบบการดึงไฟล์จาก Server สำนักงานใหญ่ไปสำนักงานย่อยมีแบ่งอีกเป็นสองโหมดคือ
  • distribute mode เมื่อมีเครื่องลูกข่ายต่างสาขาต้องการไฟล์ เมื่อติดต่อไป server สนง.ใหญ๋  server จะดูว่ามีเครื่องลูกข่ายในสาขานั้นเครื่องไหนเอาไฟล์ไปแล้วบ้าง ถ้ามีก็จะให้ไปโหลดที่เครื่องนั้นแทน ทำให้ความเร็วในการโหลดสูงกว่า
  • hosting mode อันนี้คล้าย ๆ กับข้างบน แต่สนง.ย่อยจะมี server ไว้อีกตัวนึง โหมดนี้หลายคนในงานฟังปุ๊บก็พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า นี้มันโหลดบิตนี้นา
• มี Direct Access หรือก็คือ VPN นั้นเอง ใครจะใช้ไม่ต้องซื้อ VPN ตะหากแล้ว
• Remote Desktop จริง ๆ ผมว่าไม่น่าเรียก Remote Desktop นะ เพราะมันไม่ใช่ Remote Desktop แบบที่คนบ้าน ๆ รู็จักกัน จริงคือเราสามารถที่จะมี Desktop และที่เก็บไฟล์เป็นของตนเองได้ เวลาใช้ก็ดึง Desktop มาจาก Server แก้ปัญหาเครื่องหาย งานก็หายไปด้วยได้
• Microsoft System Center ตัวนี้สืบเนืองมากจากการรองรับ VT เราสามารถที่จะย้าย Virtual Machine ที่เราสร้างไว้ ไปลงในเครื่องอื่นได้ โดยเราสามารถที่จะให้ VM สองตัวนี้ sync กันได้ครับ

นอกเหนือจาก Windows Server ทาง PM ยังได้พูดถึง Microsoft Exchange เวอร์ชั่นใหม่ที่สามารถ เปลี่ยนเสียงใน voice mail ให้เป็น message แล้วส่งเข้ามือถือเราได้ และเรายังใช้เสียงของเราโทรเข้าไปตอบอีเมลได้ โดยเสียงจะแปลงเป็นข้อความโดยอัตโนมัติ

สุดท้ายทาง Microsoft มาคุยเรื่องแผนงานการประชาสัมพันธ์ Windows 7 และฝากประชาสัมพันธ์งานสองงาน นั้นก็คืองานเปิดตัว Windows 7 อย่างเป็นทางการ งานจัดวันที่ 31 ตุลาคม และ 1 พฤษจิกายน ที่สยามพารากอน และงาน The New Efficiency Event วันที่ 17 พฤษจิกายน ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ครับ

ความเห็นต่องาน

ผมคิดว่างานนี้ทาง Microsoft จัดได้ดีครับ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม บรรยากาศที่มีการหยอกล้อ คุยเล่นกันตามภาษาเพื่อนกัน ผมถือว่าดีที่เดียว blogger ที่ได้รับเชิญมาพูดหลายคนเตรียมตัวมานำเสนอกันเป็นอย่างดี แต่หลังงานจบได้มีผู้เข้าร่วมงานบางท่านไม่พอใจกับบรรยากาศของงานในวันนั้น ผมมานั่งคิดดูแล้ว ผมว่าสิ่งที่ทำให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานเหล่านั้นไม่พอใจ น่าจะเป็นเพราะการที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพบรรยากาศแบบไม่เป็นทางการ และอีกส่วนหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ Microsoft บางท่านและ blogger ที่ได้รับเชิญมาเล่นกันมากไปหน่อย

ที่ผมเขียนแบบนี้เพราะว่า ด้วยประสบการณ์ที่ผมได้เคยไป meeting ในงานที่มีคนไปกันมาก ๆ เช่น งานที่เป็นผู้หญิงส่วนมากหรือจะงานที่มีผู้ชายมากกว่าเช่นงาน Windows 7 Blogger Day ผมพบว่า พอคนที่คุ้นเคยกันกลุ่มใหญ่ ๆ มาเจอกัน เริ่มมีการพูดเหย่กัน แกล้งกันตามภาษาเพื่อน, ภาษาผู้ชาย หรือภาษาผู้หญิง บางครั้งบุคคลภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นจะรู้สึกไม่ค่อยดีเวลาเห็นภาพเหล่านี้ ผมคิดว่าเรื่องนี้คนจัดงานเองไม่ผิด และคนที่มาร่วมงานก็ไม่ผิดครับ แต่ผมว่าคราวหน้าเราควรจะมีลิมิตว่าเราควรเล่นกันแค่ไหนที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานที่ไม่ได้รู้เรื่องท่านอื่นไม่พอใจ และผู้เข้าร่วมงานก็ควรจะเข้าใจเรื่องนี้ด้วยครับว่าเขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีครับ

More info

http://www.windows7thailand.com/

แถมรูป @joyz ใส่เสื้อ ThaiThinkPad ครับ ดูดีมาก ๆ

ปล.รูปภาพบางส่วนผมนำมาจาก facebook ของ Windows7 Thailand ครับ