ผมว่าจะเขียนเรื่องนี้ตั้งนานแล้วแต่ด้วยเหตุหลายๆ อย่าง (แต่จริงๆคือผมขี้เกียจ) แทนที่จะเขียนหัวว่ารายงานเลยเขียนเป็นควันหลงแทนครับ งาน Intel Bloger Day 2008 นี้จัดวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาครับ จัดที่ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน Pachino ที่สยามสแควร์ ซอย 4 ครับ และนับเป็นครั้งแรกที่ทาง Intel ประเทศไทยนั้นได้เชิญเหล่านักเขียนบลอกมารับฟังเกี่ยวกับ roadmap ของสินค้า Intel และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในลักษณะสบายๆ ว่าแล้วไปดูกันดีกว่าครับว่าในงานเขามีอะไรบ้าง

หัวข้อแรกที่พูดกันในงานคือ  roadmap CPU ของ Intel ครับ พูดโดยประธานของทาง Intel ประเทศไทยครับ ซึ่งพระเอกงานนี้ก็คือเจ้า Nehalem นั้นเอง ซึ่งเป็นสถาปัตติยกรรมใหม่ของ Intel ซึ่งในตลาดผู้ใช้ทั่วไป เรารู้จักมันในชื่อของ Core i7 ครับ และก็ Atom จะมีแบบ duo core ซึ่งเจ้า core i7 และ Atom ตัวใหม่ จะมาปรากฎให้ยลโฉมกันปลายปีนี้ครับ ส่วน Core i7 ของเครื่องพกพานั้นจะเป็นไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า ผมขอไม่ลงรายละเอียดของทั้งสองตัวนี้นะครับเพราะคิดว่าหาอ่านได้จากหลายที่ ขอเขียนเฉพาะเรื่องที่ท่านพูดแล้วผมว่าน่าสนใจและคนไม่รู้ดีกว่า

• Google นั้นมีเครื่อง server อยู่ประมาณ 500,000 – 1,000,000 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องที่ผลิตเองทั้งหมดโดยคนอินเดีย ถ้าเอาไปเทียบกัน ก็คงจะบอกได้ว่า Google นั้นเป็นผู้ผลิตเครื่อง server อันดับ 4 – 5 ของโลกได้
• Google นั้นไม่เคยทำงานช้าลงเลยตั้งแต่เปิดมาเพราะใช้การประมวลผลแบบขนาน
• Intel นั้นมีรอบในการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่เรียกว่า Tick Tok โดยเจ้า Tick คือ การลดขนาดกระบวนการผลิตลง และ Tok คือการเปลี่ยนสถาปัตติยกรรม ซึ่งการลดขนาดก็ทำไปแล้วคือจาก 45 เป็น 32 nm ครั้งนี้เลยเปลี่ยนสถาปัตติยกรรมเป็น Nehalem ครับ
• เมื่อเราลดขนาดการผลิตลงจะทำให้เราใส่ transistor ได้มากขึ้น แต่ก็จะทำให้เกิด electron leakage มากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนมากขึ้น ซึ่ง Intel เป็นเจ้าแรกที่แก้ไขเรื่องได้โดยใช้ high-k metal gate ซึ่งช่วยลดการรั่วของ electron ลงได้
• จุดประสงค์ในการออกแบบ Netbook ของ Intel นั้นคือต้องการให้คนมีรายได้น้อยเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น โดนได้คอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถพอใช้งานได้ และกลุ่มตลาดคือผู้ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องแรก แต่พอออกมาจริงกลับเป็นว่าผู้ซื้อมากที่สุดคือกลุ่มผู้ที่มีแลปท็อปไว้ใช้งานแล้ว

และยังมีเรื่องเกี่ยวกับวงการไอทีอื่นๆ อีกครับ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมชอบที่สุดครับ

ต่อมาก็เป็นการทานอาหารว่างก่อนที่จะมาฟังเรื่อง Cloud Computing จากพี่ JavaBoom ขอไม่ลงรายละเอียดอีกตามเคยครับ ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมลองไปอ่านในบลอกของพี่เขาจะดีกว่าครับ แต่จากที่ฟัง ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่ยอดมากครับ สรุปคือเราไม่จำเป็นต้องหาซื้อเครื่อง server หรือคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงเองที่พร้อมจะตกรุ่นตลอดเวลา ณ. วันที่เราซื้อมา  Cloud Computing นั้นสะดวกและยืดหยุ่นมากครับ ที่สำคัญคือประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องทำสถานที่ ไม่ต้องหาคนดูแล แค่เราทำคอมพิวเตอร์เสมือนขึ้นมาซึ่งเราสามารถกำหนดสเปกต่างๆ แล้วนำไปรันบนกลุ่มคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ Cloud Computing แต่ในความเห็นผมนั้นคิดว่าถ้าโครงสร้างพื้นฐานซึ่งก็คือความเร็วและความเสถียรของอินเตอร์เนตในบ้านเรานั้นยังไม่ดีพอ Cloud Computing ในบ้านเราอาจไม่เกิดครับ

เรื่องสุดท้ายของงานก็คือเรื่อง WiMAX แต่ตอนนั้นผมหมดสภาพไปแล้ว เอาเป็นว่า WiMAX นั้นไม่ได้ทำออกมาแข่งกับ 3G เพราะ 3G นั้นเน้นไปที่ voice แต่ WiMAX นั้นจะเน้นเรื่อง data ครับ Intel นั้นมีการออกการ์ด WiMAX ซึ่งจะมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ที่วางขายในปีหน้าที่อเมริกาครับ และในไทยนั้น WiMAX ได้มีการนำมาทดลองใช้แล้ว โดยได้คลื่นในช่วงเดียวกับ cable TV ทำให้ประสิทธิภาพยังไม่ดีเท่าที่ควรครับ ส่วนใครอยากฟังเรื่อง WiMAX และ 3G เพิ่มเติมนั้น ในงานเปิดบ้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จะมีการพูดถึงเรื่องนี้ด้วยครับ ในวันเสาร์ที่ 8 ที่จะถึงนี้ตอน 10.30 -12.00 ครับ

สุดท้ายก็ขอฝากรูปที่ถ่ายในงานนิดหน่อยครับ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ Intel ได้ยืมมาจากทางผู้ผลิตครับ

ผมอยากได้ Netbook ของ Lenovo จังเลย