ท่าทางงานนี้ผมจะตกข่าวสำคัญไป อาจเป็นเพราะผมมี intuos 3 แล้วรู้สึกยังใช้ไม่คุ้มเลยไม่ได้ตามข่าวอะไร ในที่สุดมันก็ออกรุ่นใหม่มาให้ช้ำใจเล่นแล้วครับ (แต่ที่ผมใช้มันก็จะสามปีแล้วนา ปลอบใจตัวเอง) ในญี่ปุ่นวางขายวันที่ 3 ที่ผ่านมา
สำหรับรุ่นนี้ตัวชูโรงเลยคือ tip sensor ตัวใหม่ที่ที่ทำให้การเขียนนั้นเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมขอเอาตัวเด่นมาบอกล่ะกัน
- น้ำหนักเริ่มต้นในการกดลดลง เมื่อก่อนเวลาเราจะเขียนก็ต้องใส่น้ำหนักตอนเขียนประมาณนึงเพื่อให้มันเขียนติด น้ำหนักที่ว่าสำหรับรุ่นนี้มันลดลงครับ
- Pressure Curve นิ่งขึ้นเมื่อใช้ไปในเวลานานๆ
- ทนขึ้นและประหยัดไฟมากขึ้น
ใครอยากอ่านละเอียดเชิญไปที่นี้เลยครับ
ส่วนในตัว Intuos 4 เองนั้นก็ได้มีการออกแบบใหม่ให้เหมาะสมกับหลักสรีรศาสตร์มากขึ้น และตัวกระดานเองก็สามารถพลิกกลับด้านได้ให้เข้ากับคนที่เขียนกับมือซ้ายและขวาครับ
ตัว ExpressKeys ได้มีการออกแบบใหม่ โดยรวมเอาปุ่มไปไว้ในฝั่งเดียวกันทั้งหมด ในความเห็นผม ExpressKeys ทางด้านขวาผมไม่ได้ใช้งานเลยครับ เพราะมันทำให้เราต้องล่ะมือที่เขียนอยู่ไปกดนั้นเอง และตัว Touchstrip ก็เปลี่ยนเป็น Touch Ring และเหลือแค่อันเดียว ที่เด็ดสุดคือ เราไม่ต้องมานั่งจำแล้วครับว่าเจ้า ExpressKeys เราตั้งไว้ให้เป็นปุ่มอะไร เพราะมันมีจอบอกว่าแต่ล่ะปุ่มเอาไว้ทำอะไรได้บ้างแล้วครับ ที่สำคัญคือมีทุกปุ่มครับ
ตัวฐานเสียบปากกา สามารถถอดเพื่อเก็บไส้ปากกาสำรองได้แล้ว และส่วนซอฟต์แวร์เองสำหรับในอเมริกา คุณจะได้ Nik® Color Efex Pro™ WE6 และ Wacom Brushes 3.0 พร้อมกับเลือกโปรแกรมใหญ่ 2 ในสามตัวดังนี้คือ
- Adobe Photoshop Elements
- Autodesk SketchBook Express
- Coral Painter Sketch Pad
สำหรับขนาดนั้นมี 4 ขนาดคือ S, M, L และ XL ในสัดส่วน 16:10 ครับ
ถามความเห็นผม ใครมีของเก่าอยู่แล้วยังใช้ได้ก็ยังไม่ควรเปลี่ยนนะครับโดยเฉพาะผู้ใช้ intuos 3 เพราะถึงแม้เซนเซอร์มันจะดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ถึงขนาดทำให้คนเปลี่ยนมาใช้ได้ครับ เว้นแต่คนต้องการความสมจริงมากๆ แค่นั้น แต่ถ้าใครยังไม่มีแล้วจะซื้อผมเชียร์เต็มที่เลยอ่ะ
ว่าแล้วผมก็ทนใช้ของเก่าต่อไป ถ้ามีโอกาสได้จับเล่นจะมารีวิวให้ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม
Pingback: Wacom Bamboo “a touch of inspiration” at RE.V –>