สวัสดีครับ วันนี้ RE.V-> เรากลับมารีวิวของกันอีกครั้ง รอบนี้เราจะมารีวิวเราท์เตอร์รุ่นใหม่ของ Belkin ที่เคยเขียนไปเมื่อก่อนหน้านี้ครับ โดยรุ่นที่เราจะนำมารีวิวกันก็คือรุ่น Play Max ซึ่งเป็นเราท์เตอร์ตัวท็อปสุดนั้นเอง ว่าแล้วก็ตามไปอ่านกันเลยครับ
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเราท์เตอร์รุ่นนี้ว่ามีความสามารถหรือจุดเด่น ๆ อะไรบ้างแนะนำให้ไปอ่านโพสเก่าก่อนครับ และสำหรับการรีวิวครั้งนี้ เราจะยึดที่ตัวเครื่องเวอร์ชั่น 1000 และเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 1.00.45 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ณ. ตอนที่เขียนครับ
Package
ตัวกล่องสินค้าออกแบบได้สีสันสดใสและมีเอกลักษณ์มาก ๆ เมื่อเทียบกับกล่องสินค้าของบริษัทอื่น ๆ เท่าที่ผมเคยดูกล่องพวกเราท์เตอร์มีเพียงแค่ Linksys รุ่น UFO กับ Belkin รุ่นนี้เท่านั้นที่ทำกล่องออกมาสวยหน่อย แต่ผมชอบกล่องดีไซน์ไฮโซของ Linksys มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามเรื่องการบอกความสามารถของเราท์เตอร์ ผมขอยกให้ Belkin ครับ ซึ่งบนกล่องจะมีการบอกเลยว่ากล่องรุ่นที่ผมถือมี Apps อะไรบ้าง ตามที่ผมเขียนไปคราวที่แล้ว แต่เท่าที่ดูจริง ๆ แล้ว Belkin นั้นเอาพวกฟีเจอร์ต่าง ๆ ในเราท์เตอร์ที่ยี่ห้ออื่นมักเขียนกันตรง ๆ แล้วทำให้คนจะซื้อที่ไม่เข้าใจ มาแปลงเป็นไอคอน Apps แทนเพื่อให้คนซื้อเข้าใจมากกว่า ถึงแม้ไอเดียจะดี แต่พอรู้แบบนี้ปุ๊บเหมือนรู้สึกโดนหลอกเล็กน้อย นึกว่าลงโปรแกรมได้จริง ๆ
ส่วนตัวกล่องข้างในก็จะคล้าย ๆ กับที่เคยเอาให้ดูคราวที่แล้ว ที่ว่าสายสัญญาณ และพวกหม้อแปลงไฟจะถูกเสียบกับตัวเราท์เตอร์แล้ว และมีแท๊กกระดาษผูกอยู่กับสาย เพื่อบอกว่าต้องเอาสายไหนไปเสียบตรงไหน แต่การจัดของคงไม่สวยเหมือนในรูปบนเว็บ
สำหรับของที่ให้มาในกล่องก็จะคล้าย ๆ กับเราท์เตอร์ยี่ห้ออื่น คือ มีตัวเครื่อง อะแดปเตอร์ สายโทรศัพท์ สาย LAN แผ่นซีดีโปรแกรม และการ์ดใบเล็ก ๆ 1 ใบ ซึ่งการ์ดนี้จะมี SSID และรหัสผ่านสำหรับต่อ WLAN อยู่ อาจจะสงสัยว่าจะมีการ์ดนี้ไว้ทำไม ไว้เดี๋ยวผมจะเขียนต่อในช่องถัดไป
Product
เราท์เตอร์ตัวนี้ออกแบบมาเป็นแบบวางแนวตั้ง ประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง และซ่อนเสาอากาศใว้ข้างในตัวเครื่อง รูปทรงตัวเครื่องและการให้สีนั้นทำตัวเราท์เตอร์รุ่นนี้ดูคล้าย ๆ ของเล่นน่ารัก ๆ ชิ้นนึงเลย ดีไซน์แบบนี้ผมชอบนะ แต่แค่มันไม่ให้อารมณ์สวยไฮโซสุด ๆ แบบที่สินค้า IT เดี๋ยวนี้เขาทำกัน เช่น เราท์เตอร์ Linksys จานบิน หรือออกแนวเรียบ ๆ แบบ Apple Airport เรียกว่าอยู่กลาง ๆ ซะมากกว่า
ด้านหน้าเครื่องมีไฟสถานะสองดวง ดวงใหญ่บอกสถานะการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ดวงเล็กบอกสถานะการเชื่อมต่อ WPS (WiFi Protected Setup) และปุ่ม WPS
ด้านหลังเครื่องมีช่องเสียบสายโทรศัพท์ พอร์ต Gigabit LAN 4 ช่อง พอร์ต USB 2.0 สองช่อง และช่องเสียบอะแดปเตอร์
ด้านล่างก็มีพวกรายละเอียดเราท์เตอร์บอกอยู่
Setup
สำหรับการติดตั้งเจ้า Play Max นี้ก็คล้ายกับเราท์เตอร์ยี่ห้ออื่นทั่วไปคือ เสียบสายทุกอย่างให้เรียบร้อย (คอมพิวเตอร์ถ้ามี WLAN จะต่อเราท์เตอร์ผ่าน WLAN ตอนติดตั้งก็ได้) แล้วก็ทำการตั้งค่าอินเตอร์เน็ตใส่ลงไปในตัวเราท์เตอร์ แต่สำหรับเจ้า Play Max เราจะต้องลงโปรแกรมที่อยู่ในแผ่นซีดีลงไปด้วย พอเราลงโปรแกรมเสร็จ จะมีหน้าต่าง wizard สำหรับตั้งค่าเราท์เตอร์ขึ้นมาให้ ซึ่งเท่าที่ลอง ๆ ใช้ดู หากคอมพิวเตอร์ของเราไม่ได้ตั้งค่าเกี่ยวกับ LAN และ WLAN เป็นพิเศษก็สามารถติดตั้งได้สำเร็จดี แต่ถ้ามีตั้งค่าอะไรเอาไว้ หรือว่าจะเลือกเชื่อมต่อเราท์เตอร์ผ่าน WLAN ซึ่งบางครั้งอาจจะมีปัญหาต่อไม่ติด ก็อาจจะติดตั้งไม่ผ่านและกินเวลานานมาก ๆ
สรุป เรื่องการติดตั้งนั้นใช้วิธีดั้งเดิมเอาดีกว่าครับ คือเข้าหน้าตั้งค่าโดยพิมพ์ IP Address ของเราท์เตอร์ผ่านโปรแกรมบราว์เซอร์ดีกว่า (ของ Belkin จะเป็น 192.168.2.1) ครับ ซึ่งหน้าตั้งค่าก็ไม่ซับซ้อน เพราะเมนูทุกอย่างกองอยู่ตรงด้านข้างทั้งหมด อยากปรับค่าอะไรก็กดเข้าไปได้เลย หลังจากตั้งค่าเสร็จก็ค่อยลงโปรแกรมที่ให้มาครับ
นอกจากนี้ตัวเราท์เตอร์ยังได้ตั้งค่ารหัสผ่าน WLAN มาให้เรียบร้อยจากโรงงานเลย โดยรหัสจะอยู่บนการ์ดที่ผมบอกไปตอนต้นน่ะแหละ ซึ่งการ์ดตัวนี้จะมีรหัสผ่าน WLAN ปกติ และรหัสผ่าน WLAN แบบ Guest Access (เดี๋ยวจะเขียนถึงในหัวข้อถัดไป) นอกจากนี้หากใครตั้งค่ารหัสผ่านเอง ตัวการ์ดก็มีที่สำหรับให้เราจดรหัสผ่านของเราเองอีกด้วย เอากันลืมเวลาใช้ไปนาน ๆ และถ้าคุณกลัวทำการ์ดหาย ก็สามารถสอดการ์ดเก็บไว้ข้างใต้เราท์เตอร์ได้อีกด้วย
โดยรวมสำหรับคนที่ไม่ชอบเข้าไปตั้งค่าให้ยุ่งยาก เราท์เตอร์รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจดี
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
กำลังจะซื้อพอดี
ไม่มี mainnon อะครับ
Pingback: รีวิว เราท์เตอร์ Cisco Linksys Smart Wi-Fi Router EA6500 แรงด้วยมาตรฐาน AC1750