สวัสดีครับ ช่วงนี้หลายๆ บริษัทคอมพิวเตอร์หลายๆ ค่ายก็ได้เปิดตัวแลปท็อปรุ่นใหม่ๆ ออกมากันมากมายนะครับ ดีบ้างไม่ดีบ้างก็ว่ากันไป แต่วันนี้จะมาพูดถึงประเด็นร้อนของบริษัท Lenovo ที่เปิดตัวโน็ตบุ๊คตระกูล ThinkPad ซีรีย์ใหม่ซึ่งก็คือเจ้า ThinkPad SL ครับ ซึ่งหลังเปิดตัวก็มีเสียงต่อต้านจากเหล่าแฟนๆ ThinkPad มากมาย ผมในฐานะผู้ใช้ ThinkPad เหมือนกันก็ขอสรุปความเป็นมาของเหตุการณ์นี้ให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ
เริ่มต้นด้วยการเกริ่นนำถึงความเป็นมาของเจ้า ThinkPad SL (ต่อไปข้อย่อแค่คำว่า SL นะครับ) กันก่อนนะครับ เจ้า SL นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตลาดธุรกิจขนาดเล็กด้วยเฉพาะ ซึ่งตลาดนี้โน็ตบุ๊คนั้นเป็นมากกว่าแค่การทำงานครับ หลายๆ คนนั้นใช้คอมพิวเตอร์เพื่อความบันเทิงหลังเลิกงานดวย ทำให้ทีมออกแบบนั้นออกแบบให้เจ้า SL นั้นมีความสามารถทางด้าน multimedia ดีกว่า Thinkpad ในรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีราคาที่สามารถหามาเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าพี่น้องในตระกูลเดียวกัน แต่มีหลายๆ อย่างจากใน Thinkpad รุ่นอื่นๆ ที่ไม่มีใน SL ครับ ซึ่งเดี๋บยวจะเขียนต่อไป
ปัญหาคือหลังจากที่ David Hill ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายภาพลักษณ์และดีไซน์ของ Lenovo ได้เขียนถึงรายละเอียดของ SL ในบล็อก Design Matters ก็ถูกเหล่าผู้ใช้โดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ต่อว่าต่อขานมากมายว่าเจ้า SL นี้ไม่เหมาะแก่การให้เอาโลโก้ของ Thinkpad มาประทับอยู่บนตัวเครื่อง ทำโน็ตบุ๊คตระกูลนี้แปดเปื้อน ฯลฯ ผมขอสรุปสาเหตุคราวๆ นะครับว่าทำไมเจ้า SL ถึงโดนต่อว่าขนาดนี้
- คีย์บอร์ดแบบ 6 แถวจากเดิมเป็น 7 แถว อันนี้ใครเป็นผู้ใช้ ThinkPad มานานก็น่าจะรู้ถึงคีย์บอร์ด 7 แถวเป็นอย่างดี เพราะรูปแบบของคีย์บอร์ดแบบนี้มีความใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดที่เราใช้ตามคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไปครับ เวลาพิมพ์ก็ไม่ต้องปรับตัวมากมายนัก นอกจากนี้ยังสะดวกอีกตะหาก แต่เจ้า SL ใช้คีย์บอร์ด 6 แถวเหมือนโน็ตบุ๊คเจ้าอื่นซึ่งทำให้มันสูญเสียความเป็น ThinkPad ไป และสะดวกน้อยลงครับ
- ฝาเครื่องเป็นผิวกรอสซี่ ThinkPad รุ่นเดิมๆ นี้จะเป็นพลาสติกมากๆ ครับ หน้าตาโบราณสุด มารุ่นปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่แต่ด้านมากขึ้นเพราะมันเป็นผิววัสดุผสมครับทนมากๆ พอเจ้า SL มาผ่าเหล่าแบบนี้แฟนๆ ไม่ชอบครับ
- ไฟตรงจุดตัว i ของโลโก้ด้านนอก แฟนๆ ไม่ชอบเพราะมันไร้สาระแล้วก็ทำให้ Thinkpad ดูไม่โปรครับ
- ตัด Roll Cage, Thinklight, Ultra Bay, ThinkVantage softwareและรูระบายน้ำตอนน้ำหกใส่คีย์บอร์ดออก ออก สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้อาจจะงงกับคำเหล่านี้ครับ
– Roll Cage เป็นคำเรียกระบบโครงแบบแมกนีเซียมของ ThinkPad ครับ เป็นที่มาของความถึกและทนที่ผู้ใช้หลายๆ คนชอบกัน
– Thinklight คือไฟที่ติดตั้งตรงส่วนจอ โดยไฟจะส่องมาที่คีย์บอร์ดทำให้เราเห็นคีย์บอร์ในที่มืดครับ
– Ultrabay เป็นระบบไดร์ฟที่คุณสามารถเอาไดร์ฟออปติก, ฮาร์ดดิสก์, แบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาใส่ได้ และสามารถถอดออกแบบ Hot Swap ได้
– ThinkVantage เป็นซอฟต์แวร์ที่มากับเครื่อง ThinkPad ทุกเครื่อง ซึ่งมีไว้ช่วยจัดการระบบต่างๆ ในเครื่อง ช่วยให้งานดูแลรักษา, ตั้งค่า และความปลอดภัยสะดวกขึ้นครับ จริงๆ เจ้าซอฟต์แวร์นี้ไม่เชิงตัดออกนะครับแต่เปลี่ยนเป็น Lenovo Care แทนซึ่งซอฟต์แวร์ย่อยตัวหลักๆ ยังอยู่ครบครับ - จอกลอสซี่
- บานพับไม่เหมือนเดิม และไม่มีขอเกี่ยวตอนปิดจอ
- นี้มันเอา Lenovo 3000 มาแปะชื่อ ThinkPad นี้หว่า
งานนี้นอกจากเจ้า SL จะโดนแล้ว เหล่าแฟนๆ ยังลากเรื่องเก่าๆ มาเล่นกันต่อ ตั้งแต่ไฟตรงปุ่ม ThinkVantage ของ X300 (อันนี้ Lenovo ออกโปรแกรมให้มันปิดเปิดได้แล้วก็ใช้เป็นไฟสถานะแจ้งเตือนเมล์ได้ครับ และโดยส่วนตัวผมชอบนะ) เปลี่ยนสัดส่วนจอจาก 4:3 เป็น 16:10 เลิกออฟชั่นพาเนลจอแบบ IPS ฯลฯ จนบล็อก Inside the Box ต้องออกมาปรับความเข้าใจแก่เหล่าแฟนๆ ครับ ขออนุญาตสรุปใจความสำคัญนะครับ
- ที่เครื่องมันออกแบบมาแบบกลอสซี่ ไฟแวววับแบบนี้เพราะว่าจากการสำรวจพบว่าตลาดธุรกิจขนาดเล็กมักจะมีพฤติกรรมการซื้อต่างจากตลาดธุรกิจ ไม่ได้เข้าเวบไซต์แล้วซื้อทีละ 5 -10 เครื่อง แต่ซื้อคอมพิวเตอร์ที่ที่เดียวกับที่ขายอุปกรณ์สำนักงานที่เขาซื้อกัน นอกจากนี้เขาอยากที่จะซื้อกับตัวคนขายเป็นๆ มากกว่าเพราะสบายใจกว่ามีอะไรสามารถคุยกันได้ทันที และร้านค้าก็มีนโยบายการคืนสินค้าที่แน่นอนกว่าร้านค้าออนไลน์ครับ ซึ่งไอคอมพิวเตอร์ที่ขายที่นั้นมันก็มีสไตล์คล้ายๆ กัน ถ้าขื่นหน้าตาเป็นแบบเดิมต่อไปอาจจะเสียลูกค้าจุดนี้ไปได้ อันนี้เห็นด้วยมากๆ ถ้าเป็นมือใหม่หรือไม่มีความรู้มาซื้อ ผมก็คงมองข้าม ThinkPad ไปเป็นยี่ห้อแรก คนที่ซื้อ ThinkPad ส่วนมากที่ผมรู้จักมักจะได้ยินกิตติศัพท์ของมันมาไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว หรือเคยใช้เครื่องของบริษัทแล้วชอบเลยมาซื้อมากกว่า ผมซื้อก็เพราะรุ่นพี่แนะนำส่วนนึงครับ
- ลูกค้าตลาดนี้คอมพิวเตอร์ใช้งานทั้งงานธุรกิจและงานส่วนตัวด้วย อันนี้ตามที่บอกไปด้านบนครับ
- ลูกค้าตลาดนี้ไม่ใช่บริษัทใหญ่ๆ แต่เป็นพวกธุรกิจขนาดเล็ก เพราะฉะนั้นเขาไม่มีแผนก IT มาคอยแก้ปัญหาให้ ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและแบคอัพระดับองค์กร และที่สำคัญเขาไม่มีเวลาต้องมาแก้ปัญหาพวกนี้หลายๆ วัน เพราะต้องเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ระบบประกันและบริการของ SL จึงต่างไปจากรุ่นอื่นครับ มีเบอร์โทรติดต่อที่สามารถติดต่อแก้ปัญหาต่างๆ รวมทั้งซอฟต์แวร์ค่ายอื่นที่ลงมาในเครื่องด้วย (ไม่ใช่พนักงาน Lenovo เองนะครับ) นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ไม่มีในรุ่นอื่นเช่น Online Backup ครับ
- ส่วนเรื่อง Lenovo 3000 อันนี้เขายอมรับครับว่าเจ้า SL คือ 3000 แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว 3000 รุ่นนี้ออกมาตอนปี 2006 ออกมาเพื่อให้ทันกระแส Olympic 2008 ครับ (จำได้ไหมครับเครื่องรุ่นมี่มีโลโก้ Olympic น่ะครับ) และทีมออกแบบไม่ได้มีส่วนร่วมมากนักกับเครื่องรุ่นนี้ครับ จ้างคนอื่นทำอย่างเดียว เน้นเร็วไว้ก่อน แต่กับ SL ทีม Thinkpad ลงมาทำเอง ซึ่งความทนทานนี้รับประกันได้ อ๋อที่สำคัญบานพับเป็นเหล็กนะ
- แล้วไอพวกฟีเจอร์ multimedia ทำไมไม่มีในรุ่นอื่นล่ะ อันนี้เพราะตลาดไม่ชอบครับ พวกบริษัทใหญ่ๆ (ที่ซื้อทีละหลายหมื่นเครื่อง) เขาไม่ต้องการครับ HDMI หรูไป ตัวอ่านการ์ดมันทำให้ข้อมูลรั่วได้ จอ IPS ก็ไม่จำเป็นครับ
ส่วนความเห็นผม ผมเฉยๆ นะครับกับเจ้า SL เพราะว่าเขาออกรุ่นนี้มาก็ไม่ใช่ว่าไอรุ่นเดิมๆ มันจะทำห่วยลงหรืออย่างไร ใครอยากได้ฟีเจอร์ที่ตัดทิ้งไปก็ไปซื้อเครื่องรุ่นอื่นๆ ได้ ผมขอสรุปความเห็นตัวเองเกี่ยวกับเจ้า SL นะครับ
- ตัวเครื่องผมยังไม่เห็นน่ะนะพูดอะไรไม่ได้ แต่ไฟตรงโลโก้ข้างนอกผมว่าเท่ดีนะ แต่มันต้องปิดได้เมื่อต้องการครับ ลองนึกภาพตอนพรีเซนต์งานแล้วไฟมันแดงวาบในห้องดูสิครับ
- ความทน ผมว่า Lenovo ตระกูล Y มันก็ทนนะครับ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดเอาเท้าเหยียบแล้วไม่พัง หรือถือเครื่องตรงจอ (ผมทำมาแล้ว) SL ก็น่าจะทนมากกว่าแต่อาจจะไม่ถึงพี่ๆ อย่างน้อยมันก็มีเซนเซอร์ไว้ดึงหัวอ่านฮาร์ดดิสก์น่ะครับ และคุณคงไม่คิดจะซื้อโน็ตบุ๊คเอามาไว้เหวียงเล่นนะครับ
- Thinklight ใส่กับไม่ใส่ไม่เห็นความต่างเลยครับ บอกตามตรง เพราะความสว่างจอ LCD มันก็พอที่จะคลำๆ คีย์บอร์ดเอาได้ครับ
- คีย์บอร์ด 6 แถว ผมก็เห็นชาวบ้านเขาก็ใช้กันได้นะ แต่เวลาเขียนโปรแกรมหรือบางโปรแกรมอาจจะสะดวกน้อยไปก็หยวนๆ กันไปครับ
- Ultrabay ไม่จำเป็นเลยตัดทิ้งก็โอเค มีน้อยคนที่ซื้ออุปกรณ์เสริมที่เสียบเจ้าตัวนี้มาใช้ สำหรับผมข้อดีของมันคือเวลาไดร์ฟออปติกมันเสีย เวลาส่งเคลมประกันไม่ต้องส่งทั้งเครื่องส่งไดร์ฟตัวเดียวก็พอ หรือถ้าหมดประกันก็ซื้อไดร์ฟใส่เองได้ ไม่ต้องเสียค่าติดตั้ง ส่วนไดร์ฟของผมนี้ตอนยกเครื่องเข้าศูนย์ผมขอสกรูมาล็อกไดร์ฟเอาไว้เลย เพราะเพื่อนชอบถอดไดร์ฟเล่นครับ ที่สำคัญไออุปกรณ์ที่มาใช้กับช่องนี้แต่ล่ะชิ้น คุณไปซื้อแบบ External มาใช้ยังถูกกว่าและดีกว่าเลย
- ราคา มันถูกกว่าพี่ๆ ตั้งเยอะ เมื่อเทียบสเปคเดียวกัน เปิดโอกาสให้คนที่อยากได้เครื่องได้มีโอกาสมากขึ้น รวมทั้งผู้ใช้ที่ไม่อยากได้ฟังก์ชั่นหรูๆ ในเครื่องได้เครื่องที่ราคาถูกลง
ถ้าถามผมว่าผมจะแนะนำเจ้า SL ให้เพื่อนๆ ไหม ผมคิดว่าคงจะแนะนำให้เพื่อนๆ น่ะครับ ถ้าราคามันเท่ากับพวกแบรนด์ไต้หวัน จีน อะไรแบบนี้ เพราะอย่างน้อยเทคโนโลยีในตัวเครื่องและชุดโปรแกรมในตัวเครื่องก็คุ้มแล้ว และโดยเฉพาะหน้าตามันทำออกมาตามสมัยนิยมแบบนี้ หลายๆ คนที่เคยร้องยี้กับหน้าตาของ Thinkpad คงจะตัดสินใจง่ายขึ้นครับ
สำหรับผม ThinkPad SL คืออนาคตใหม่ของ Lenovo ครับ แล้วคุณล่ะครับคิดอย่างไร
ไม่รู้ดิ ไม่ชอบ SL Series ลองไปอ่าน ๆ กระทู้ แล้วก็ poll ดูครับ 😉 ผมก็สับเละไปแล้วเหมือนกัน
http://www.thaithinkpad.com/forum/thinkpad/lenovo-thinkpad-sl400-thinkpad/
เยี่ยมเลยยย .. แต่ตอนนี้ ใจไปทาง MAC แล้ว แต่ก็ดัดน้อง VAIO ไม่ได้ สักทีครับบบ
รัก thinkpad นะแต่ไม่ชอบ sl จริงๆเลย
ผมว่าคำว่า Think Pad มันหมายถึง Business Class Laptop
หมายถึง Nissan Skyline ซึ่งออกแบบมาเพื่อการเดินทางไกล
การที่เอา Logo Think Pad ไปติด บน SL แบบนี้ก็ไม่ต่างจาก Down Grade Brand
ตัวเองหนะครับ
ผมว่า แบบนี้ SL คงได้ กลายเป็นอย่างที่ฝรั่งมันเขียนว่า
SL = So Lame
อ่าาา มีคนกล่าวไว้ว่า ผมเจอคนชอบเขียนโปรแกรมต้องรีบทัก ^_^ ชอบเขียนโปรแกรมเหมือนกันครับ มาเที่ยวบล็อกผมได้นะ
ผมคงพลาดถนัดแล้วถ้างั้นที่ทำการสอยเจ้า sl410 แต่ไงๆก็สอยมาแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม อิอิ
Pingback: Carve the new path. New ThinkPad « RE.V –>
อิโก้ กันไปหรือป่าวครับ…
ของซื้อมาใครชอบใช้อะไรก้อเลือกใช้กันไปเถอะครับ
ของใครชอบยังไง ก้อย่อมรักของ ของตัวเองกันทั้งนั้น…วู้ววววว โตกันยั้งเนี่ย
สอยมาแล้วครับ มันแว๊ปเลย แต่ก็โดนสุดๆ ครับ